สีผึ้งพยองคำครูบาคำวัดม่วยต่อผู้เป็นครูบาอาจารย์ของครูบาวัดไม้ฮุงและครูบาวัดผาบ่อง
ครูบาคำ วัดมวยต่อ เป็นผู้ที่ถ่ายทอดวิธีการสร้างพยองคำให้แก่ครูบาวัดไม้ฮุงและครูบาวัดผาบ่อง จนกลายเป็นตำนานแห่งสีผึ้งพะยองคำอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนี้ สีผึ้งพยองคำเป็นเครื่องรางของขลังที่เลื่องชื่อลือชาในหมู่นักแสวงโชค คหบดี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พ่อค้า แม่ค้า ตลอดจนถึงคนทุกชนชั้น เพราะหากว่าบุคคลใดได้มาไว้บูชาจะเจริญรุ่งเรืองด้วยโภคทรัพย์ โชคลาภความร่ำรวย ลาภยศสรรเสริญ เงินทองทรัพย์สมบัตินานาประการณ์ด้วยอิทธิคุณความวิเศษแห่ง"สีผึ้งพยองคำ"
เล่ากันว่าสีผึ้งพยองคำที่ท่านได้สร้างขึ้นนั้นมีกรรมวิธีในการทำลึกลับพิสดารมากดังได้รับฟังเรื่องราวเล่ามุกขปาฐะจากผู้เฒ่าผู้แก่ที่เคยได้เห็นท่านและเป็นลูกศิษย์ในองค์ท่านได้เล่าไว้ว่าสีผึ้งท่านนั้นหุงขึ้นด้วยขี้ผึ้งอาถรรพณ์และยาสำคัญ ๖ ชนิดที่ต้องใช้ความพยายามอย่างสูงมากจนคิดว่าในสมัยปัจจุบันคงไม่มีใครมีความอดทนถึงเพียงนั้นเลยเชียว และว่านสำคัญชนิดต่างๆ ที่ท่านได้ปลูกไว้เป็นสวน ว่านยาสำคัญชนิดที่ต้องมีคนเฝ้าไม่ให้ใครเข้าไปกันเลยทีเดียว
สีผึ้งพยองคำที่ท่านสร้างมีกรรมวิธีการสร้างกว่าจะสำเร็จต้องอาศัยสถานที่ถึง ๓ ที่ หุงกันถึง ๓ ครั้งเลย เมื่อแรกเริ่มท่านทำพิธีหุงต่อหน้าพระประธานในอุโบสถในว่าเป็นสถานที่ทำสังฆกรรมและเป็นสถานที่เกิดใหม่ของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาจนสำเร็จหนึ่งครั้งจากนั้นนำไปหุงตรงทางสามแพร่งในว่าเป็นสถานที่คนมารวมกันพูดคุยหัวเราะกันเป็นสถานที่นัดพบกันถึงจนกว่าจะมีคนถามว่า"ครูบาทำอะไร" ท่านก็จะตอบว่า"ทำยาวิเศษโอสถทิพย์" ที่บันดาลให้คนที่พกพามีความร่ำรวยเป็นมหาเสน่ห์อย่างยิ่งถึงจะสำเร็จอีก ๑ ครั้ง พิธีสุดท้ายที่ท่านทำพิธีคือท่านให้ลูกศิษย์ท่านสืบเสาะฟังข่าวว่ามีผู้หญิงตายท้องกลม ที่เป็นลูกหัวสาวผู้ชาย(ลูกคนแรกผู้ชาย)ฝั่งไว้ในป่าช้าไหนบ้างเมื่อทราบแล้ว ท่านก็จะไปทำพิธีเซ่นสรวง บัดพลี แล้วให้ลูกศิษย์ท่านขุดนำศพผีตายท้องกลมนั้นลุกขึ้นนั่งแล้วเปลี่ยนชุดเสื้อผ้าใหม่ให้พร้อมทั้งผัดหน้าทาแป้งให้ศพนั้นแล้วให้ลูกศิษย์ท่านผู้เป็นชายพรหมจรรย์มีหน้าตาหล่อเหลาดูดีมีอายุไม่เกิน ๒๐ ปีเข้าไปโอบกอดศพจาก ข้างหลังแล้วนำขันสัมฤทธิ์ที่บรรจุสีผึ้งนั้นวางบนมือผีนั้นโดยมีมือของผู้ชายคนนั้นซ้อนอยู่อีกข้างก็ให้ถือไม้คนสีผึ้งโดยมีมือของผู้ชายนั้นซ้อนอยู่เช่นกันเมื่อเริ่มพิธีก็ให้ชายนั้นประคองมือศพนั้นคนสีผึ้งโดยมีท่านครูบายืนบริกรรมคาถาอยู่ข้างๆ สักพักก็ให้ชายคนนั้นปล่อยมือจากศพผีตายท้องกลมนั้นปล่อยให้ผีนั้นคนสีผึ้งเองอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งเมื่อผีนั้นคนสีผึ้งไปพลางก็จะยกขึ้นพลาง นัยว่าจะซดสีผึ้งนั้นซึ่งเชื่อว่าเป็นยาโอสถทิพย์สุดวิเศษซึ่งถ้าผีนั้นซดสีผึ้งนั้นได้ก็จะกลายเป็นผีดิบอัมตะยากแก่การปราบปราม เมื่อผีนั้นยกขึ้นจนใกล้ปากที่สุดก็จะแย่งเอาขันสีผึ้งจากมือถือนั้นแล้วก็สะกดให้กลับลงไปนอนในโลงอย่างเดิม เป็นอันเสร็จพิธีการสร้างสีผึ้งพะยองคำอันวิเศษสุดตามกรรมวิธีของท่าน ด้วยกรรมวิธีการสร้างที่ลึกล้ำพิสดารและวิชาอาคมบวกกับพลังจิตที่แกร่งกล้าของท่าน จึงทำให้สีผึ้งนี้มีอิทธิคุณวิเศษมากมายเป็นที่ประจักษ์ต่อผู้นำไปใช้จนกลายเป็นยอดปรารถนาของทุกคนที่ดั้นด้นขึ้นไปกราบแม้ว่าหนทางจะยากลำบากเพียงใด ก็หาใช่อุปสรรคในการเดินทางสู่เมืองในหมอกนี้เลย
คุณวิเศษของสีผึ้ง “พยองคำ” สีผึ้งพยองคำของท่านครูบานั้นมีอิทธิคุณอันวิเศษที่เล่าขานกันมานาน อำนวยโสตถิผลแก่ผู้บูชา ผู้ศรัทธาเลื่อมใสอย่างน่าอัศจรรย์ สีผึ้งพยองคำของครูบาท่านนั้น จะมีอิทธิคุณโดดเด่นอยู่ ๒ ประเภท
๑. อำนวยผลด้านโชคลาภ วาสนา บารมี แก่ผู้บูชา ร่ำรวยเงินทอง ค้าขายดีมากด้วยโภคทรัพย์ลาภผล
๒. ด้านมหาเสน่ห์อย่างสุดยอด เป็นที่ต้องการแก่ผู้ชายนิสัยเจ้าชู้ ชนิดขายที่นาไปบูชากันเลย สมัยเมื่อ ๗๐ ปีก่อนสีผึ้งท่านดังมาก ผู้หญิงสวยคนไหนหนีตามผู้ชายไป หรือ ผู้ชายหลงผู้หญิงอย่างหัวปักหัวปำ เป็นต้องกล่าวโทษโจษจันทร์กันว่า โดนฤทธิ์สีผึ้งพยองคำเป็นแน่แท้
ปัจจุบันสีผึ้งพยองคำนี้หายากเป็นอย่างมาก โดยส่วนมากมักตกอยู่กับเศรษฐีคหบดีผู้มีอันจะกินเสียโดยส่วนมาก
สนใจสอบถามได้ครับ
|