พระพุทธชินราช กรุวัดทัพผึ้ง สุโขทัย สร้างในปีพุทธศักราช ๒๔๗๓ เนื้อดินศักดิ์ผสมผงพุทธคุณ
ประวัติพระกรุวัดทัพผึ้ง มีชาวบ้านคนหนึ่งชื่อ นายดาว ฟักเฟื่อง ไปดักยิงกระต่ายตอนกลางคืนที่บริเวณเจดีย์ โดยใช้ไฟฉายล่อให้กระต่ายเล่นไฟ แต่เมื่อยิงกระสุนปืนออก ปรากฏว่าปืนไม่ลั่น จนเป็นเรื่องเล่าลือถึงอิทธิฤทธิ์พระเครื่องที่อยู่ในเจดีย์ แต่ยังไม่มีใครกล้าเข้าไปขุด กระทั่งครั้งหนึ่ง เกิดเหตุโขมยวัวชาวบ้านขึ้น แล้วคนร้ายหนีไปหลบซ่อนอยู่แถวพระเจดีย์ ชาวบ้านกว่าสิบคนช่วยกันค้นหาและล้อมจับ แต่เมื่อลั่นกระสุนปืนออกไป ปืนนับสิบกระบอกก็ไม่ลั่นเช่น จนเป็นที่อัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นและกล่าวขานกันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่องในองค์เจดีย์
ต่อมาจึงมีการลักลอบขุดกรุพระเพื่อหาพระเครื่องศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว จนร้อนถึงคณะกรรมการวัดต้องตัดสินใจเปิดกรุอย่างเป็นทางการ ปรากฏว่าพบพระเครื่องจำนวนมาก จึงเรียกกันตามชื่อวัดว่า "พระกรุวัดทับผึ้ง" , พระกรุวัดทับผึ้ง ที่ขุดพบส่วนใหญ่จะเป็นพระเนื้อดินเผา ที่มีเนื้อดินละเอียด และพบพระเนื้อสัมฤทธิ์ปะปนอยู่บ้างเล็กน้อย โดยสามารถแยกพระเครื่องที่พบออกเป็น ๓ กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
๑. พระเนื้อดินเผาสีหม้อใหม่
๒. เนื้อสีดำผงใบลาน
๓. เนื้อสำริด
พระกรุวัดทับผึ้งเป็นพระพิมพ์มีศิลปะงดงาม และมีความคมความลึกของพิมพ์ อันนับเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อมีการสืบประวัติกันในภายหลังแล้วสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นพระพิมพ์ที่พระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าได้สร้างแล้วบรรจุไว้ ดังเช่น องค์พระบางองค์มีการกดพิมพ์เป็นตัวอักษรจารึกไว้ว่า "อาจารย์อ้นสร้างไว้ พ.ศ. ๒๔๗๓" เป็นต้น และต่อมาคณะกรรมการวัดได้บูรณะองค์เจดีย์ขึ้นอีกครั้งจนเป็นที่เรียบร้อย จึงได้นำพระเครื่องบางส่วนบรรจุเข้าไว้ในกรุเจดีย์ดังเดิม
พระกรุวัดทับผึ้ง" มีมากมายหลายสิบแม่พิมพ์ ส่วนใหญ่ได้ต้นเค้าจากพระพุทธชินราช จึงทำเป็นรูปพระพุทธในซุ้มชินราช โดยประทับนั่ง ปางมารวิชัยบ้าง ปางสมาธิบ้าง บางพิมพ์ทำนูนขึ้นมาเรียก "ชินราชนอก" ถ้าด้านหลังมียันต์ นับเป็น "พระคะแนน" บางพิมพ์เป็นพระประทับยืน สืบสานศิลปะสุโขไทยในปางลีลา ปางห้ามญาติ ในด้านพุทธคุณนั้น จะเน้นหนักไปทางแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ถึงขนาดยิงไม่เข้าฟันไม่ออกเลยทีเดียว นับเป็นพระกรุที่น่าสนใจสะสมพิมพ์หนึ่งของจังหวัดสุโขทัย นะท่านเอย ฯลฯ
|