สีผึ้งโพราด หลวงปู่โป๊ะ วัดบ้านบิง
มีพุทธคุณครอบจักรวาล ใช้ในทางเสน่ห์ก็สมหวังทุกคนไป มักเป็นที่รักของบุคคลทั่วไป ถูกตาต้องใจทั้งชายหญิง มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น
สีผึ้งชนิดนี้มีวิธีการสร้างที่ยุ่งยากและเป็นสีผึ้งหายากของหลวงปู่โป๊ะวัดบ้านบิง เนื่องจากมวลสารนั้นต้องครบตามตำรา ซึ่งเท่าที่ข้อมูลจะหาได้ เข้าใจว่าท่านหุงเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และน้อยคนจะได้ครอบครอง
กล่าวคือ สีผึ้งชนิดนี้ต้องใช้เมล็ดงาที่หว่านลงบริเวณใต้เชิงตะกอนเผาผีและเอาขี้เถ้ากลบปล่อยทิ้งไว้ จนงานั้นงอกขึ้นมาเองตามธรรมชาติจึงจะถือว่าใช้ได้ เอาเมล็ดงานั้นมาคั่วสุกแบบบีบเอาน้ำ จะได้น้ำมันงาเชิงตะกอนออกสีน้ำตาลแดง คนคุมงานคั่วงาเชิงตะกอนนั้นจะต้องเป็นแม่หม้ายกินผัวเท่านั้น ยิ่งกินเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี โดยผู้ที่ตำงาคั่วงาจะต้องเป็นเด็กสาวพรหมจรรย์ไม่เคยผ่านผัวมาก่อน มานั่งตำงาคั่วงา พูดจาหัวร่อต่อกระซิก พูดแต่เรื่องความรักหนุ่มสาว โดยมีแม่หม้ายเป็นคนชักจูงในเรื่องโลกีย์ จะได้น้ำมันงาเชิงตะกอนมากหรือน้อยไม่สำคัญ สำคัญต้องครบตามหลักเกณฑ์นี้อันเป็นเคล็ดวิชาเสน่ห์แต่ฝ่ายหญิง
ส่วนเสน่ห์ฝ่ายชายนั้นหลวงปู่โป๊ะท่านใช้น้ำมันแต่งผมชายโพราดเนื้อครีมสีส้มเป็นเคล็ดเสน่ห์ฝ่ายชาย ท่านเสกคาถามหาเสน่ห์ลงไปในตลับครีมแต่งผมเป็นพรรษากว่าจะใช้ได้ผล ทั้งเสน่ห์ฝ่ายหญิงและฝ่ายชายเมื่อพร้อมกันจึงจะเริ่มทำการหุงได้ โดยใช้พิธีกรรมเดียวกันกับการหุงสีผึ้งเสน่ห์จันทร์แต่มวลสารต่างกัน ว่ากันว่าต้องทิ้งไว้จนเที่ยงวัน ถ้ากบไม่ร้องไม่ต้องไปเอา
สีผึ้งชนิดนี้จึงเป็นสีผึ้งที่หายากมากในสายหลวงปู่โป๊ะวัดบ้านบิง ส่วนใหญ่จะบรรจุอยู่ในตลับสีผึ้ง ๕๐ สตางค์ และท่านจะใส่ให้เฉพาะบางคนเท่านั้น สีผึ้งชนิดนี้พุทธคุณนั้นครอบจักรวาล เป็นสีผึ้งที่ใช้สู้คดีความก็ได้ เป็นสีผึ้งให้นักการเมืองท้องถิ่นไปจนนักการเมืองระดับประเทศใช้ในการแข่งขันในการลงรับเลือกตั้งสำเร็จทุกราย ใช้ทวงหนี้ก็สำเร็จ แม้กระทั่งใช้ในทางเสน่ห์ก็สมหวังทุกคนไป
สนใจสอบถามได้ครับ
|