ล็อกเก็ต หลวงพ่อดาบส สุมโน อาศรมเวศุวัน ปี 2536 ไม่มีแตกปิ่นใด ๆ สนใจสอบถามได้ครับ
ราคา 759 บ.ส่งด่วน
เหนือคำอธิบาย!! ปาฏิหาริย์แห่งศาสนา พระอริยะ..แม้สรีระร่างเผาไฟ แต่ "หัวใจ" ไม่สลาย ! เชื่อ ทิ้งหัวใจไว้ให้สรรพสัตว์...
ยังมีเรืองราวอัศจรรย์อยู่มาก ในวงการศาสนา ไม่ว่าจะเป็นการที่สรีระร่างของพระเถระ ไม่เน่าเปื่อย หรือ การที่เผาสรีระแล้ว เถ้ากระดูกกลับกลายเป็นพระธาตุ แล้วอีกปาฏิหาริย์หนึ่ง ที่อาจไม่ไดรับการกล่าวถึงมากเท่า 2 ประเด็นแรก แต่ก็จะไม่กล่าวถึงก็คงไม่ได้ นั่นคือ ปรากฎการณ์ "หัวใจ" ไม่ไหม้ไฟ ของพระอริยะ ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ หรือ พระภิกษุณี ดังนี้...
หลวงพ่อดาบส สุมโน เดิมชื่อ สง่า นามสกุล เจริญจิตต์
เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ พ.ศ.๒๔๖๗ ปีชวด ตำบลบางกระไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เป็นลูกคนที่ ๖ ในจำนวนทั้งหมด ๘ คน บิดาชื่อ “นายเถียน” มารดาชื่อ “นางเวียง”
ครั้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๕ อายุได้ ๑๘ ปี “คุณป้า” ได้นำ “เด็กชายสง่า” ไปบรรพชาที่ “วัดจันทนาราม จังหวัดจันทบุรี” เพื่อเรียนปริยัติธรรมซึ่งต่อมาสามารถ สอบได้ทั้ง “นักธรรมตรี” และ “นักธรรมโท”
พ.ศ.๒๔๙๐ ด้วยจิตที่มุ่งมั่นจะปฏิบัติธรรม แสวงหาธรรม จึงออกเดินธุดงค์ไป “จังหวัดเชียงใหม่” ตามเส้นทาง “อำเภอดอยสะเก็ด” สู่ “ถ้ำเชียงดาว” อำเภอเชียงดาวได้ธุดงค์พลัดเข้ามาสู่เขตพื้นที่ของ “อำเภอพร้าว” ในปี ๒๔๙๐ ถึง ๒๔๙๔ จึงพำนักและปฏิบัติธรรมใน “ป่าช้า” ของตำบลเวียง อำเภอพร้าว หรือ “วัดป่าเลไลย์” เป็นเวลาถึง ๔ ปี
ณ วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๔ ตรงกับแรม ๖ ค่ำ เดือนยี่เวลา ๑๗.๐๐ น. “พระภิกษุสง่า สุมโน” ตั้งสัจจะอธิษฐาน ณ ดอยพระเจ้าหล่าย ขอสละเพศบรรพชิตขอลาสิกขาบทจากการเป็น “พระภิกษุสงฆ์” โดยหันมาถือการครองเพศเป็น “ดาบส” ที่มีเพียง ผ้าอังสะและผ้าสบง เพียงสองผืนหุ้มห่อร่างกายไว้จากนั้นจึงครองเพศเป็น “ดาบส” และปฏิบัติธรรมอยู่บน “ดอยพระเจ้าหล่าย” โดยมิได้ฉันทั้งอาหาร และน้ำถึง “๓ วัน ๓ คืน” จากนั้นจึงเดินทางลงจากดอยเพื่อธุดงค์ไปจังหวัด ต่างๆ ทั้ง แพร่ ลำปาง น่าน ยะลา ชุมพร และท้ายสุดปฏิบัติธรรมที่ “อาศรมไผ่มรกต” ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย จนมรณภาพ เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๓๔ สิริอายุได้ ๗๖ ปี
“หลวงพ่อดาบส สุมโน” นับเป็น “ผู้บำเพ็ญเพียร” ด้วยศีลาจารวัตร บริสุทธิ์ผุดผ่องจนได้พบแสงสว่างแห่งธรรมเจิดจ้า และธรรม ที่ท่านแสดงให้บรรดาศิษย์ได้ยังความสุข ความสงบ ความร่มเย็น ให้เกิดขึ้นในจิตใจของผู้ที่เคยฟังธรรมจากท่าน นอกจากนี้ ในวันเผาสรีระของท่าน แต่หัวใจของท่าน กลับเผาไม่ไหม้ แถมยังแปรสภาพเป็น สีเขียวมรกต ตอนประชุมเพลิง ปรากฏว่าเปลวไฟ ที่เผาสรีระสังขารของท่าน ไม่ใช่เป็นสีแดงเหมือนไฟทั่วไป แต่เป็นเปลวไฟสีเขียว แล้วที่มหัศจรรย์ ก็คือหัวใจของท่าน ไม่ไหม้ไฟ และกลายสภาพ เป็นหินสีเขียวมรกต ให้เหล่าลูกศิษย์ ได้เก็บไว้สักการะบูชา ระลึกถึงท่าน ต่อมาอัฐิส่วนอื่น ก็กลายเป็นพระธาตุ
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร เคยพูดให้ลูกศิษย์ฟังว่า
“ถ้าฉันไม่อยู่แล้ว มีอะไรสงสัย ให้ไปถามกับ หลวงพ่อดาบส หลวงพ่อองค์นี้ แทนหลวงปู่ได้” จึงนับได้ว่าท่านเป็น “ประทีปธรรม” แห่งภาคเหนือที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ และในจิตใจ ของประชาชนตลอดไป
โดยทุกวันนี้ หัวใจของท่าน ศิษยานุศิษย์ยังคงเก็บรักษาไว้ ณ กุฏิของท่านเพื่อเป็นที่สักการะแก่ผู้ศรัทธาโดยทั่วไป
|