“ครูบาต๋าวัดบ้านเหล่า" เป็นสีผึ้งและเครื่องรางยุคต้นๆของท่านราวๆปี สองพันห้าร้อยต้นๆ ท่านได้มอบให้ศิษย์ผู้ใกล้ชิดไว้ใช้ก่อนที่จะสร้างผ้ายันต์ม้าเสพนางเป็นคราวต่อมาสีผึ้งไก่ป่าครูบาต๋าวัดบ้านเหล่า" เป็นสีผึ้งเครื่องรางยุคต้นของท่านราวๆปี สองพันห้าร้อยต้นๆ ท่านได้มอบให้ศิษย์ผู้ใกล้ชิดไว้ใช้ก่อนที่จะสร้างผ้ายันต์ม้าเสพนางเป็นคราวต่อมาสำหรับความมหัศจรรย์" และอานุภาพเรื่องมหาสเน่ห์ของสีผึ้งนั้นมีครั้งหนึ่งครูบาต๋าท่านได้นำสีผึ้งที่ท่านปลุกเสก นำไปป้ายไก่ป่า(บริเวณหลังวัดป้าเหล่าในสมัยนั้น ปกคลุมไปด้วยป่า)เมื่อป้ายเสร็จแล้วนั้นท่านก็เดินกลับวัดตามปกติแต่ปรากฏว่ามีไก่ป่าที่ถูกสีผึ้งของท่านป้าย นั้นเดินทางมาตามท่านถึงในวัดและไม่ยอมไปไหนเลยจนเป็นที่มาของ"สีผึ้งไก่ป่า" หรือ"สีผึ้งไก่หลง จึงเป็นตำตานตั้งแต่นั้นมา
วิธีใช้"ท่านครูบาต๋าบอกว่าไม่ต้องมีคาถากำกับให้ อธิฐานแล้วใช้ทาปากได้เลยเพราะท่านมนต์คาถาใส่ให้หมดแล้ว สีผึ้งของท่านเด่นทางเมตตามหาเสน่ห์ ใช้พกพา ทาปาก เวลาติดต่อเจรจาพูดคุย หนุ่ม ๆ นิยมทาปากเพื่อพูดคุยเรียกลูกค้า พกพาไว้เป็นเมตตามหานิยมผู้คนเจ้านายเห็นรักใคร่เอ็นดู ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน
พุทธคณ"สีผึ้งของท่านนั้นเด่นด้านเมตตามหาสเนห์ใช้พกพาทาปากเวลาติดต่อเจรจาการงาน พูดคุยหนุ่มๆนิยมใช้ทาปากเพื่อพูดคุยกับสาวๆที่หมายปอง พ่อค้าแม่ขายใช้ทาปากเพื่อพูดคุยเรียกลูกค้าพกพาไว้เป็นเมตตามหานิยมผู้คน เจ้านาย เห็นรักใคร่เอ็นดู ประสพความสำเร็จในอาชิพ