พระแก้วจุยเจีย ปางถวายเนตร เป็นพระประจำวันอาทิตย์ มาจากเมื่อครั้งพระบรมศาสดาได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ก็ได้ประทับเสวยวิมุตติสุข (ความสุขอันเกิดจากความสงบ) อยู่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นเวลา ๗ วัน จากนั้นได้เสด็จไปประทับยืน ณ กลางแจ้งทางทิศอีสานของต้นศรีมหาโพธิ์ และทอดพระเนตรต้นศรีมหาโพธิ์ดังกล่าวโดยไม่กระพริบพระเนตรเลยเป็นเวลา ๗ วัน ซึ่งสถานที่ประทับยืนนี้ได้มีชื่อเรียกว่า "อนิมิสเจดีย์” เหตุที่กำหนดปางนี้เป็นพระประจำวันอาทิตย์ น่าจะมาจากการน้อมบูชาพระอาทิตย์ด้วยการเพ่ง "อาโลกกสิณ” (เพ่งแสงสว่าง) เพราะการเสด็จยืนและลืมพระเนตรเพ่งต้นศรีมหาโพธิ์ทางทิศอีสานนั้น เป็นทิศเดียวกับดวงอาทิตย์ในภูมิทักษา (การพยากรณ์ทางโหราศาสตร์ที่ใช้ดาวพระเคราะห์ ๙ ดวงเป็นเกณฑ์) และดวงอาทิตย์ยังมีความหมายถึงดวงตาด้วย ทั้งนี้ อ.เล็กได้กล่าวว่าการบูชา "สุริยเทพ”นี้มีมาแต่โบราณ ด้วยเห็นว่าดวงอาทิตย์เป็นบ่อเกิดแห่งพลังงาน และให้แสงสว่างแก่โลก จึงเป็นดังผู้มีคุณ ดังนั้น การบูชาสิ่งที่มีคุณจึงเป็นสิ่งสมควร แม้พระพุทธองค์จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็มิได้เย่อหยิ่ง ถือองค์ว่าเหนือกว่า ดังนั้น ปางนี้จึงเป็นเสมือนอุทาหรณ์สอนใจให้ผู้ที่เกิดวันนี้ ซึ่งมักมีอุปนิสัยรักเกียรติ รักศักดิ์ศรี ชอบเป็นผู้นำ และมักหยิ่งทะนงตนว่าให้รู้จักเจริญรอยตามพระพุทธองค์ที่ทรงนอบน้อม ถ่อมตน ไม่ถือดี และว่าการบูชาพระปางนี้ก็เพื่อเสริมบารมีด้านความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้าด้วยเกียรติยศ ขจัดความมืดบอด และปัญหาอุปสรรคต่างๆ
|