พระล้านนาดอทคอม แหล่งรวมพระเครื่องเมืองเหนือ

ตะกรุดลิงลมครูบาจันทร์ วัดน้ำแป้ง


ตะกรุดลิงลมครูบาจันทร์ วัดน้ำแป้ง

ใหม่ กลับหน้าร้าน
ชื่อพระ :
 ตะกรุดลิงลมครูบาจันทร์ วัดน้ำแป้ง
รายละเอียด :
 
ตะกรุดลิงลมครูบาจันทร์ วัดน้ำแป้งวนาราม ยุคต้นตัวผู้ตัวเมีย 1 ชุดมี 3 ดอกครับ สภาพเก่าเก็บเดิมๆๆครับ
หนึ่งในวิชาเหล่านั้นที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่านก็คือ “คาถาลิงลม”
หลังจากที่ท่านได้อยู่รับใช้เล่าเรียนวิชากับหลวงพ่อวัดดอนตันได้พอสมควร ท่านได้เดินทางมาศึกษาวิชาอยู่ยงคงกระพันจากท่านครูบาวัน วัดดอนชัย อำเภอปง จังหวัดพะเยา ซึ่งครูบาวันผู้นี้เป็นพระผู้เฒ่าที่ถือสันโดษ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย และก็มีชื่อเสียงในด้านคาถาอาคม ขณะที่มีผู้ลองเอากระบอกปืนหันไปทางกุฏิท่านแล้วลั่นไก ปรากฏว่าปืนไม่ลั่น ทำอยู่ถึง 3 ครั้ง คนที่ทำนั้นได้นึกถึงการกระทำบาปกรรมที่เคยล่วงเกินแก่พระเถราเจ้า จึงได้นำขันข้าวตอกดอกไม้ ไปขอขมาลาโทษท่าน โดยครูบาวันได้ถ่ายทอดตำราให้แก่นายจันทร์จนหมดสิ้น ซึ่งวิชาที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านก็คือ ลิงลมตัวเมีย มีผลทางแคล้วคลาด และหลวงปู่ยังใช้ลงตระกรุดคู่กับลงวิชาของหลวงพ่อวัดดอนตัน
ประวัติหลวงปู่ครูบาจันทร์ โชติโก วัดน้ำแป้งวนาราม ผู้ทรงอาคมเปี่ยมล้นด้วยเมตตา
หลวงปู่ครูบาจันทร์ โชติโก หรือที่ชาวบ้านเรียกกับว่า ตุ๊อุ๊ยจันทร์ แห่งวัดน้ำแป้งพนาราม บ้านน้ำแป้ง ตำบลขุนควร อำเภอปง จังหวัดพะเยา
ท่านเป็นพระเกจิที่พร้อมด้วยศีลธรรมอันดีงาม และมีจริยาวัตรอันงดงามตามพระธรรมวินัยของพระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งท่านได้มีเมตตาต่อศิษย์ทุกคนอย่างที่ไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะ ท่านได้ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนและก็เข้ามาหาท่านตามสมควร
หลวงปู่ครูบาจันทร์ โชติโก นั้นท่านมีนามเดิมว่า “จันทร์” นามสกุล “ใจก๋องคำ” เกิดเมื่อวันจันทร์ ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2468 ณ บ้านโห้ง ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โยมบิดานามพ่ออุ๊ยมา โยมมารดานามแม่อุ๊ยติ๊บ นามสกุลใจก๋องคำ ท่านมีพี่น้องด้วยกัน 3 คน ท่านเป็นคนที่ 2 ในวัย 12 ขวบ พ่ออุ๊ยมา โยมพ่อของท่านได้นำไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ “ครูบาหล้าตาทิพย์” แห่งวัดป่าตึง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาเด็กชายจันทร์ ใจก๋องคำ ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร เพื่อศึกษาเล่าเรียนธรรมะ พร้อมกับฝึกปฏิบัติสมาธิ เจริญภาวนา และศึกษาวิทยาคมอักษรล้านนา อักขระเลขยันต์ อยู่กับหลวงปู่ครูบาหล้า ตาทิพย์ ซึ่งสามเณรจันทร์ก็ได้ศึกษาเล่าเรียนอย่างตั้งใจ ต่อมาท่านได้เรียนเทศน์มหาชาติ กัณฑ์มัทรี ซึ่งท่านมีชื่อเสียงในการเทศนากัณฑ์นี้เป็นอย่างยิ่ง
จนกระทั่งสามเณรจันทร์อายุได้ 19 ปี พ่ออุ๊ยมา โยมบิดาของท่าน ได้ขอร้องให้ท่านลาสิกขาจากเพศบรรพชิต ให้ออกมาช่วยทางครอบครัวหาเลี้ยงชีพ เนื่องจากทางบ้านมีสภาพที่ลำบากขัดสนขาดแรงงานในการทำไร่ทำนา ซึ่งทางสามเณรจันทร์ก็ได้นำความไปปรึกษากับหลวงปู่ “ครูบาหล้าตาทิพย์” ทางหลวงปู่ครูบาหล้า ท่านก็ไม่ได้ขัดขวางแต่อย่างใด และยังมอบปักษาตำราโบราณของท่าน ซึ่งได้บันทึกอักขระเลขยันต์ตำรายา และมอบให้กับกับสามเณรจันทร์เก็บไว้เพื่อสร้างประโยชน์ในภายภาคหน้า ในช่วงชีวิตที่ท่านเป็นฆราวาสท่านได้ช่วยทางบ้านทำไร่ทำนา หาเลี้ยงบิดามารดาด้วยความขยันขันแข็ง หนักเอาเบาสู้ หาเลี้ยงชีพด้วยความสุจริต ในยามว่างท่านก็จะฝึกทบทวนสรรพวิชาตำราต่างๆที่ได้ร่ำเรียนมาจากหลวงปู่ครูบาหล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง ตลอดจนรักษาศีล มั่นเข้าวัดทำบุญอยู่อย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งต่อมาความเป็นอยู่ของทางบ้าน ก็มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หลวงปู่ท่านจึงได้ออกเดินทางไปเสาะแสวงหาครูบาอาจารย์เพื่อศึกษาหาวิชาอาคมเพิ่มเติม โดยท่านได้ไปร่ำเรียนวิชาอาคมด้านอยู่ยงคงกระพัน จากพ่อหนานคำ ผู้สืบทอดตำราจากครูบาเฒ่าเมืองฮาม และได้ศึกษาวิชาแลกเปลี่ยนกับ “ตุ๊เจ้าสง” หรืออดีตเสือสง วัดบ้านนาเหลืองม่วงขวา จังหวัดน่าน ได้สืบทอดวิชาแคล้วคลาดคงกระพันจาก “พ่อหนานจันต๊ะ” อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ระหว่างนั้นท่านยังได้ศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติมจากครูบาอาจารย์อีกหลายท่านในขณะนั้น โดยครูบาอาจารย์องค์สำคัญของท่านอีกองค์หนึ่งคือ “หลวงพ่อทา” วัดดอนตัน อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน หลวงพ่อทา เป็นพระสุดยอดพระเถราจารย์ของจังหวัดน่านและล้านนาตะวันออก วัตถุมงคลของท่านทุกรุ่น ล้วนมีประสบประการณ์สูงในด้านคงกระพันชาตรี คุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย แม้กระทั่งวิทยุประเทศจีนแดง เมื่อได้กิตติศัพท์อานุภาพเหรียญและผ้ายันต์ของหลวงพ่อวัดดอนตัน ก็ได้นำไปกล่าวขวัญออกอากาศ ทั้งนี้เนื่องจากผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ทางชายแดนจังหวัดน่านประมาณ 200 คน ได้บุกเข้าโจมตรีฐานที่ตั้งหน่วยงานบริษัทอิตาเลี่ยนไทยที่ตำบลน้ำยาว อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ 2517 ได้ก่อความสูญเสียทั้งชีวิตทางกายของเจ้าหน้าที่ คนงาน ตลอดจนเครื่องมือเครื่องใช้และสิ่งก่อสร้างเสียหายอย่างหนัก แต่คนที่มีเหรียญและผ้ายันต์ของหลวงพ่อวัดดอนตันยังปลอดภัย ไม่ได้รับอันตราย ทั้ง ๆ ที่ถูกยิง ถูกจุดไฟเผา และถูกระเบิดขว้าง จากการที่ฝ่ายบ้านเมืองได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่และพนักงานของบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ที่อยู่ในเหตุการณ์คืนที่ผู้ก่อการร้ายบุกโจมตีแคมป์ที่จังหวัดน่าน ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าให้ฟังเพิ่มเติม ถึงตอนที่ถูกเผา มีการเล่าว่าได้ถูกผ้าชุบน้ำมันเบนซินจุดเผาไฟ พอไฟลุกก็ได้นำมาโยนใส่เครื่องยนต์ที่ราดด้วยน้ำมัน แต่ปรากฏว่าไฟที่ลุกติดผ้าชุบน้ำมันพอโยนใส่ไปที่เครื่องไฟเกิดดับ ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะว่าที่เครื่องยนต์รถนั้นมีแต่น้ำมันเชื้อเพลิงทั้งนั้น และก็มีการจุดไฟกับผ้าชุบน้ำมันนั้นโยนเพิ่มเข้าไปอีก ก็เกิดการดับอีก เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง สร้างความประหลาดใจและงุนงงแก่พวกที่มาทำร้ายมาก จึงได้เปลี่ยนวิธีทำลายโดยการใช้ปืนยิง และระเบิดขว้างเข้าใส่รถน้ำทั้งๆที่อยู่ในระยะใกล้ ระเบิดก็ขว้างไม่ถูกรถน้ำ เพียงแต่โดนสะเก็ดบ้างแค่นั้น ไม่เป็นไร รถน้ำคันนี้ยังใช้การได้อยู่จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ซึ่งหลวงพ่อวัดดอนตันท่านได้เมตตาถ่ายทอดสรรพวิชาอาคมต่างๆให้กับนายจันทร์อย่างไม่ปิดบังอำพราง
ต่อมาเมื่อนายจันทร์ได้อายุ 55 ปี ท่านได้เล็งเห็นความไม่เที่ยงตรงแน่แท้ของชีวิต ได้เกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส มีจิตใจอย่างจะบวชศึกษาธรรมมะในพระพุทธศาสนา ท่านจึงได้เข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้งหนึ่ง ณ วัดนาปรัง อำเภอปง จังหวัดพะเยา
ต่อมาชาวบ้านน้ำแป้งได้อาราธนาท่านให้มาช่วยสร้างวัดน้ำแป้ง เนื่องจากสมัยนั้นมีสภาพเป็นวัดร้าง ไม่มีพระเณรจำพรรษา และยังเป็นดินแดนแห่งผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ยากที่จะมีผู้คนจากภายนอกเข้ามาในพื้นที่ หลวงปู่ท่านได้พิจารณาเล็งเห็นบ้านน้ำแป้งมีความเงียบสงบ เหมาะที่จะเจริญภาวนา จึงได้รับอาราธนานิมนต์ โดยท่านได้รับปัจจัยเริ่มต้นการก่อสร้างวัดน้ำแป้งจากหลวงปู่ครูบาหล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง และยังคอยเป็นที่ปรึกษาในการออกแบบวางผังก่อสร้างวัดน้ำแป้ง ในขณะที่ท่านได้เริ่มสร้างวัด ในใจหลวงปู่ท่านยังมีห่วงอีกอย่างนั้นก็คือ ท่านยังเป็นห่วงโยมบิดาของท่านที่แก่ชรามาก และไม่มีคนดูแล เนื่องจากโยมมารดาของท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนพี่น้องก็ได้แยกย้ายไปสร้างครอบครัวใหม่ เรื่องนี้ทางคณะศรัทธาบ้านน้ำแป้งจึงได้ประชุม ปรึกษาหาลือกันและมีมติให้หลวงปู่นำโยมบิดาของท่านมาอยู่ดูแลในวัดน้ำแป้ง โดยชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจ สร้างบ้านพักหลังเล็กๆหนึ่งหลังให้แก่พ่ออุ๊ยมา มาอาศัยอยู่ในวัดน้ำแป้ง จนท่านถึงแก่กรรม ซึ่งการกระทำของหลวงปู่ได้แสดงออกในเรื่องการกตัญญูต่อบุพการี เป็นที่ประจักษ์ต่อคณะศิษย์ทุกคน วัตถุมงคลที่เลื่องชื่อของท่านก็ได้แก่ “ตะกรุดลิงลม” ซึ่งเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์อย่างมาก ผู้ที่ได้ไปต่างก็พบกับประสบประการณ์ต่างๆมากมาย ทั้งแคล้วคลาดปลอดภัย ปืนยิงไม่เข้า ถูกมีดแทงไม่เข้า และก็ยังช่วยกำบังกายได้ ซึ่งหลวงปู่ท่านได้ลงหลัก ๆ อยู่ 2 ดอก ดอกแรกคือลิงลมตัวผู้ ซึ่งได้สืบทอดจากหลวงพ่อวัดดอนตัน มีผลทางด้านอยู่ยงคงกระพัน ส่วนดอกที่สองท่านจะลงลิงลมตัวเมีย ซึ่งได้สืบทอดมาจากครูบาวัน วัดดอนชัย อันนี้มีผลทางด้านแคล้วคลาด บางครั้งท่านก็จะเพิ่มเติม ตะกรุดจาก 2 ดอก เป็น 3 ถึง 5 ดอก โดยจะเพิ่ม “ยันต์กันผี” ซึ่งได้สืบทอดจากหลวงปู่ครูบาหล้าตาทิพย์ “ยันต์ป้อก๊าปันติ๊บ” เป็นตระกรุดเมตตาค้าขายดี นำติดตัวไปค้าขายก็จะค้าขายของหมดไวกลับบ้านเร็ว และ “ยันต์บ่อแก้วกินทราย” ในทางร่มเย็นเป็นสุข มีโชคมีลาภ
อย่างที่สอง “เหรียญท้าวเวสสุวรรณ” เทพผู้ปกปักรักษาประจำทิศเหนือ ตามความเชื่อของชาวล้านนา ท่านได้สร้างออกมาหลายรุ่น ได้แก่เหรียญรุ่นแรก รุ่นท้าวเวสสุวรรณมหาจาตุมหาราชิกา เหรียญนี้มีประสบการณ์มากมายคือใช้ในเรื่องของการคุ้มครอง ป้องกันภัย โดยมีตำรวจท่านหนึ่งถูกส่งไปประจำการที่ชายแดนใต้ ขณะออกลาดตะเวนพื้นที่ได้ถูกระเบิดที่ผู้ก่อการร้ายได้จุอัดลงในถังแก๊ส แล้วนำไปซุกซ่อนไว้ใต้ถนน เพื่อรอจุดชนวนขณะที่รถเจ้าหน้าที่ขับผ่าน เหตุการณ์ลอบวางระเบิดครั้งนี้ทำให้ยานพาหนะรถหุ้มเกาะของทางราชการได้รับความเสียหายไปทั้งคัน เสื้อเกราะกันกระสุนที่ตำรวจผู้นั้นสวมใส่ถึงกับขาดกระจุย แต่เนื้อตัวกับไม่มีบาดแผลสักนิด โดยตำรวจท่านนี้ได้แขวนท้าวเวสสุวรรณรุ่นแรกของหลวงปู่ติดตัวเพียงเหรียญเดียวเท่านั้นส่วนเหรียญท้าวเวสสุวรรณที่ได้รับความนิยมสูงสุดของหลวงปู่ในตอนนี้คือ “รุ่นชนะมาร” ด้วยถือเคล็ดว่า ชนะมาร ชนะจน ชนะคน ชนะอุปสรรคทั้งปวง อีกทั้งรูปลักษณ์ของเหรียญยังมีความสวยงามมาก เป็นรูปท้าวเวสสุวรรณปางร่ายมนต์ ซึ่งผู้นำไปบูชาติดตัวล้วนจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ประสบผลสำเร็จทั้งในด้านหน้าที่การงาน การเงิน และก็ยังแคล้วคลาดปลอกภัยจากภยันตรายทั้งปวง ส่วนในด้านป้องกันภูตผีปีศาจ ลูกศิษย์ของหลวงปู่ท่านหนึ่งได้นำเม็ดแตงท้าวเวสสุวรรณ ห้อยคอลูกน้อยที่พึ่งจะคลอดออกมาใหม่ นำไปห้อยได้ประมาณ 2 คืน ดวงวิญญาณของผีปู่ย่าจะไปช่วยเลี้ยงดูลูกหลานที่พึ่งเกิดใหม่ แต่เข้าไปใกล้ไม่ได้ เนื่องจากมีแสงสว่างที่เจิดจ้าร้อนแรงมากๆ ขอให้นำพระออกไปไว้ห่าง ๆ ตนเองจะได้เข้าไปช่วยเหลือลูกหลานได้ อีกเหตุการณ์หนึ่งชาวอำเภอดอกคำใต้ท่านหนึ่ง ภายในบ้านมีเสาตกน้ำมันอยู่กลางบ้าน ทุก ๆ วันพระ ลูกสาวจะเกิดอาการผวาร้องไห้ไม่หยุดในตอนกลางคืน จึงนึกถึงหลวงปู่และอาราธนาเหรียญท้าวเวสสุวรรณของหลวงปู่แขวนไว้ที่เสา หลังจากนั้นมาก็ปกติ เด็กไม่มีอาการร้องไห้ให้ตอนกลางคืนอีกเลย มีอยู่ครั้งหนึ่งคือชาวบ้านน้ำแป้ง ได้ถูกวิญญาณของผีโป่งเข้าสิงสู่ ชาวบ้านจึงได้นำตัวไปให้ร่างทรงเจ้าพ่อขุนควร เจ้าพ่อที่ปกปักรักษาชาวขุนควร อำเภอปง จังหวัดพะเยา ให้ท่านช่วยขับไล่ดวงวิญญาณให้ออกจากร่าง แต่ทางเจ้าพ่อขณะที่ประทับทรง กลับบอกให้นำตัวไปให้พระที่วัดน้ำแป้งช่วยเหลือ ชาวบ้านจึงช่วยกันนำร่างของผู้ที่ถูกวิญญาณผีโป่งสิงสู่ มาให้หลวงปู่ทำการช่วยเหลือเข้าทางใน และได้เห็นว่ามีดวงวิญญาณผีโป่งถึง 3 ตนสิงสู่อยู่ในร่าง ทั้ง 3 ตนนี้นั้นแรงมาก ท่านบอกให้ชาวบ้านหาไซดักปลามาให้ท่านใบหนึ่ง หลังจากนั้นท่านก็ได้ภาวนาใช้อำนาจจิตขับไล่ดวงวิญญาณของผีโป่งทั้ง 3 ต นให้ย้ายออกจากร่างไปอยู่ที่ไซดักปลา จนผู้ที่ถูกวิญญาณสิงสู่นั้นได้หายเป็นปรกติ หลังจากนั้นก็ให้ชาวบ้านนำไซใส่ปลาไปฝังยังริมห้วยท้ายวัด เผื่อรอปลดปล่อยดวงวิญญาณของผีโป่งในภายหลัง
อีกเหรียญที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในขณะนี้เลยก็คือ “เหรียญเลื่อนยศบารมี” ซึ่งได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2560 ในโอกาสที่หลวงปู่ได้รับสมณศักดิ์จากพระอธิการโชติโก เป็นเป็นพระครูมงคลจันทร์โชติ ซึ่งสร้างความยินดีให้แก่ชาวบ้านน้ำแป้งและเหล่าขณะศิษย์หลวงปู่ทุกท่าน จึงได้ร่วมใจกันจัดสร้างเหรียญรุ่นนี้ขึ้นเป็นที่ระลึก ซึ่งเหรียญนี้ก็ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่ ภายในมณฑลพิธีของวัดน้ำแป้งวนาราม โดยมีพระเถระมาร่วมในพิธีพุทธาภิเษกอย่างมากมาย ซึ่งเหรียญรุ่นนี้ได้ก่อเกิดปาฏิหาริย์และประสบประการณ์ออย่างมากมาย โดยผู้นำอาราธนาติดตัวก็มักจะได้โชคได้ลาภได้เลื่อนยศเลื่อนขั้นไปตามๆกัน บางท่านที่พกติดตัวก็ต้องถอดออกจากคอ เมื่อถึงฤดูโยกย้ายตำแหน่งทางราชการ เนื่องจากตัวจะถูกโยกย้ายจากภูมิลำเนาเดิม ครั้งหนึ่งท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลขุนควร ขณะที่ท่านกำลังได้นอนหลับพักผ่อนภายในบ้านพักกับครอบครัว เมื่อถึงเวลาประมาณตี 1 กว่า เกิดพายุฝนฟ้ากระหน่ำ และฟ้าได้ผ่าลงมากลางบ้านตรงบริเวณหัวนอนในห้องนอนของท่าน ทำให้เกิดความเสียหายแก่บ้านพักเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่หน้าแปลกใจก็คือทุกคนในบ้านไม่มีใครได้รับอันตรายแม้แต่นิดเดียว มีเพียงเกิดอาการหูอื้อ โดยทุกครั้งก่อนนอนท่านนายกจะอาราธนาเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ของหลวงปู่สอดไว้ใต้หมอนก่อนนอนทุกครั้ง เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทุกคนภายในบ้านต่างเชื่อว่าที่ทุกคนรอดตายมาได้เป็นเพราะปาฏิหาริย์ของเหรียญเลื่อนยศบารมี ช่วยคุ้มครองให้ทุกคนแคล้วคลาดปลอดภัย เมื่อ 2 ปีก่อนลูกศิษย์ของท่านที่เป็นตำรวจตะเวนชายแดนสังกัด ตชด.32 ได้นำเหรียญเลื่อนยศอาราธนาพกติดตัวขณะโดดร่ม ก็ได้มีการฟังคำสั่งผิด ให้รีบกระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์ ทำให้ร่มลงผิดเป้าหมาย แต่ด้วยบารมีของหลวงปู่ทำให้ร่มไปตกค้างอยู่บนต้นไม้ ทำให้ตำรวจท่านนี้ไม่ได้รับอันตรายใดๆเลย
นอกจากนี้แล้วยังมีวัตถุมงคลอีกหลายอย่างของหลวงปู่ที่ทำให้เกิดประสบประการณ์ต่างๆมากมาย เช่น เหรียญท้าวเวสสุวรรณ และเหรียญรูปเหมือนรุ่นต่างๆของหลวงปู่ พญาลิงลมที่บนได้ขอพรได้ พญาวัวคำหรือวัวธนูที่ใช้คุ้มกันป้องกันภัยและเตือนภัยได้ มีดหมอเทพศาสตราที่ใช้ทำน้ำมนต์ขับไล่สิ่งอัปมงคลชั่วร้าย ภูตผีปีศาจต่างๆ สีผึ้งเมตตาหลวงที่ท่านได้ทำขึ้นเองตามตำราวิชาเรียกจิตที่ท่านได้ร่ำเรียนมาจากหลวงพ่อวัดดอนตัน ท่านบอกว่าเวลาทาปากไปค้าขาย และเอาไปผสมน้ำเปล่าเอาไปพรมของขาย ห้ามบนว่าขายของดีจนไม่ทัน รวมถึงสุดยอดพระปิดตาที่มีประสบประการณ์มากมาย ในด้านหนุนดวงเสริมสร้างบารมี คือ “พระปิดตา” อุดมทรัพย์และสมปรารถนา หลวงปู่ครูบาจันทร์ โชติโก ท่านเป็นพระเถระที่น่ายกย่องกราบไหว้บูชา ท่านไม่ยึดติดในลาภยศสักการะใดๆ มีความเป็นอยู่ที่สมถะเรียบง่าย ปัจจัยทุกบาททุกสตางค์ที่มีคนนำมาถวายท่าน ท่านจะนำไปกองไว้ข้าง ๆ ตัว เมื่อถึงเวลาสมควรท่านก็จะให้ลูกศิษย์นำไปถวายวัดวาอารามต่างๆที่กำลังก่อสร้าง หรือถาวรวัตถุที่ท่านเห็นสมควร เคยมีคนมาขโมยปัจจัยของท่านอยู่หลายครั้ง เมื่อขโมยถูกจับได้ ก็มีคนได้นำข่าวมาบอกกับท่านว่าปัจจัยท่านถูกขโมย ท่านก็ไม่ว่าอะไร ไม่เดือดร้อน และก็บอกว่าช่างมันเถอะ สิ่งเหล่านี้ได้บ่งบอกถึงจิตใจอันเปี่ยมล้นไปด้วยเมตตาของหลวงปู่
นอกจากนี้แล้ว ท่านยังได้สร้างสาธารณะประโยชน์ต่างๆอีกมากมาย เช่น เทวสถานม่อนกุเวร ที่ตั้งอยู่ในเขตบ้านห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของลูกศิษย์ของหลวงปู่ ที่ไม่สะดวกเดินทางไกลมากราบไหว้ที่วัดน้ำแป้ง ทุกท่านยังสามารถมากราบไหว้ท้าวเวสสุวรรณองค์ใหญ่ได้ ณ สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ร่มรื่นล้อมด้วยเครือไม้นานาพันธุ์เหล่านี้ ทุกวันนี้หลวงปู่ยังได้ให้ความอนุเคราะห์ในการก่อสร้างถาวรวัตถุให้กับวัดในอุปถัมภ์อีกหลายวัด เช่น วัดสบเกี๋ยง อำเภอปง จังหวัดพะเยา วัดเชียงทอง วัดดอกบัว ตำบลท่าวังทอง จังหวัดพะเยา วัดป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ วัดปูคาเหนือ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงท่านได้มอบปัจจัยจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้กับสถานพยาบาลในเขตอำเภอปง โรงพยาบาลประจำอำเภอปง รวมถึงให้ความอนุเคราะห์แก่สถานศึกษาต่างๆ เช่น โรงเรียนบ้านน้ำปุก โรงเรียนนาอ้อม โรงเรียนขุนควรวิทยาคม ตลอดจนถึงมหาวิทยาลัยพะเยา  พระครูมงคลจันทโชติ หลวงปู่จันทร์ โชติโก เจ้าอาวาสวัดน้ำแป้งวนาราม อ.ปง จ.พะเยา หลวงปู่ได้ละสังขารสู่แดนนิพพานด้วยอาการอันสงบ เมื่อเวลา 06.30น. ของวันนี้ 18 กุมภาพันธ์ 2566 ขอน้อมส่งหลวงปู่สู่แดนนิพพาน โดยทางวัดจะแจ้งรายละเอียดพิธีการลำดับต่อไป
ราคา :
 900
โทรศัพท์ :
 0837946145, 0837946145
วันที่ :
 19/05/24 16:50:18
 
 
ตะกรุดลิงลมครูบาจันทร์ วัดน้ำแป้ง พระล้านนา.คอม เว็บ พระเครื่อง พระบูชา อันดับหนึ่ง ของภาคเหนือ ออกแบบเว็บไซต์โดย 2WinWeb design บริการรับทำเว็บไซต์
Copyright Pralanna.com All right reserved. © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายโดย บริษัท พระล้านนาดอทคอม จำกัด.