พระวัดป่ามะม่วง หนึ่งในพระเด่นเมืองสุโขทัย
วัดป่ามะม่วง ตั้งอยู่ภายนอก ‘อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย’ นับเป็นโบราณสถานสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด ทั้งทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี ตามประวัติศาสตร์ปรากฏความว่า
... สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช แห่งราชอาณาจักรสุโขทัย ทรงขยายอาณาเขตกว้างไกลจนถึงเมืองนครศรีธรรมราช และทรงอาราธนาพระมหาเถระที่ได้ไปบวชเรียนตามพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์แบบหินยานจากประเทศลังกามายังกรุงสุโขทัย โปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็น ‘สมเด็จพระสังฆราช’ ทรงสร้าง “วัดป่ามะม่วง” ในบริเวณที่เงียบสงบเหมาะแก่การเจริญภาวนาและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอันเป็นกิจของสงฆ์ฝ่ายอรัญวาสี เพื่อเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช พร้อมโปรดให้เป็นที่แสดงธรรมเทศนาแก่ประชาชนในวันพระ ส่วนวันธรรมดาจัดให้เป็นที่ว่าราชการงานเมืองแก่ข้าราชบริพาร ...
นอกจากนี้ยังมีการค้นพบ ‘ศิลาจารึกหลักที่ 6’ (จารึกวัดป่ามะม่วง) ภายในวัด กล่าวถึง ... พระมหาธรรมราชาลิไทเสด็จออกจากเมืองศรีสัชนาลัย เพื่อปราบจลาจลในเมืองสุโขทัย และได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ต่อมาได้ทรงนิมนต์พระมหาสามีสังฆราช จากเมืองพัน (เมืองของมอญ) มาจำพรรษาที่วัดป่ามะม่วง และเพื่อทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ในการทรงผนวชของพระองค์ โดยพระองค์ทรงจำพรรษา ณ วัดแห่งนี้ เมื่อปี พ.ศ. 1905
พระวัดป่ามะม่วง หรือบางท่านเรียกว่า ‘หลวงพ่อโต วัดป่ามะม่วง’ เป็นพระเนื้อดินแบบครึ่งซีก มีทั้งเนื้อหยาบและเนื้อละเอียด เนื้อมวลสารมีส่วนผสมของเนื้อว่านและเกสร จึงแลดูนุ่มและปรากฏคราบรารักอยู่โดยทั่วไป สีส่วนใหญ่เป็นสีแดงและเหลือง และเนื่องจากเป็นพระที่บรรจุกรุจึงปรากฏคราบนวลกรุอยู่ทั่วองค์พระ พุทธลักษณะเป็นพระรูปทรงกลีบบัว ทรงพิมพ์ติดคมชัดเจน องค์พระประธานมีพุทธลักษณะคล้ายพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสน ประทับนั่ง แสดงปางมารวิชัยแบบขัดสมาธิราบ บนฐานหมอน 2 ชั้น ภายในซุ้มเรือนแก้วเส้นคู่ขนาน ปลายด้านล่างสุดงอนขึ้นคล้ายเศียรพญานาค
จุดสังเกตประการสำคัญที่นับเป็นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะ คือ พระพักตร์ช่วงหน้าจะมีลักษณะหักลงมา และพิมพ์ด้านหลังมีลักษณะโค้งมน ซึ่งพระวัดป่ามะม่วงที่พบในกรุวัดอื่นๆ อาทิ วัดมหาธาตุ และวัดสระศรี ที่มีพุทธลักษณะเหมือนกันทุกประการ ยกเว้นพระพักตร์จะไม่หักและพิมพ์ด้านหลังจะเป็นพิมพ์หลังแบน
|