|
ท้าวเวสสุวรรณและพระจ้าวทองทิพย์(เขียน จ้าว ตามคำที่เขียนไว้ใต้องค์พระ)องค์นี้จัดสร้างเมื่อปี2514 ออกที่วัดมิ่งเมือง จ.น่าน ประวัติของพระองค์ทั้งสองพิมพ์นี้คือ เมื่อปี2514 ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านในขณะนั้นคือท่าน ดร.สุกิจ จุลละนันท์ ได้นำข้าราชการและพ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดน่านร่วมกันสร้างเสาหลักเมืองน่านและสร้างศาลไทยจัตุรมุขครอบเสาหลักเมืองน่านขึ้นมาใหม่ ตามคำแนะนำของหลวงปู่โง่น โดยนำเอาเสาหลักเมืองน่านต้นเดิมที่โค่นล้มลงมาเกลาแต่งใหม่และแกะสลักหัวเสาเป็นพรหมสี่หน้า ส่วนเศษเสาหลักเมืองน่านเก่า ที่ผ่านการเกลา หลวงปู่โง่นมีความเห็นว่าเป็นของดีของศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรทิ้ง ท่านจึงนำไปบดเป็นพิมพ์พระจ้าวทองทิพย์ และพิมพ์ท้าวเวสสุวรรณ โดยมีครูบาต่างๆในจังหวัดน่านร่วมปลุกเสก ทั้งครูบาดอนตัน ครูบาก๋ง ครูบาศรีบุญเรือง พระส่วนหนึ่งได้ถวายสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี อีกส่วนบรรจุไว้ใต้เสาหลักเมืองน่าน ที่เหลือแจกจ่ายให้กับคนน่าน
ท้าวเวสสุวรรณนั้นปัจจุบันได้รับความนิยมากๆ เนื่องจากสี่ห้าปีที่ผ่านมากะแสท้าวเวสสุรรณมาแรงมาก ทำให้ผู้คนเสาะแสวงหาท้าวเวสสุวรรณมาครอบครองเป็นจำนวนมาก ยิ่งเป็นวัตถุมงคลยุคเก่าอย่างท้าวเวสสุวรรณวัดมิ่งเมืองที่สร้างตั้งแต่ปี2514 และมีเกจิดังๆของน่านร่วมปลุกเสกอีก ทำให้ราคาท้าวเวสสุวรรรวัดมิ่งเมืองราคาไปไกลกว่าแต่ก่อนมาก
ท้าวเวสสุวรรณวัดมิ่งเมืองนั้นมวลสารที่สำคัญคือผงไม้เสาหลักเมืองที่ผสมอยู่ด้วย และที่สำคัญที่สุดในบางองค์ได้นำไม้จันทร์แดง มาใส่เพิ่มไปอีกในพิมพ์พระจ้าวทองทิพย์และพิมพ์ท้าวเวสสุวรรณ เนื้อหามวลสารนอกจากผงไม้เสาหลักเมืองน่านแล้ว องค์ที่มีมวลสารสีออกชมพู่ๆแบบนี้จะหายากมากๆ ทั้งพิมพ์พระจ้าวทองทิพย์และพิมพ์ท้าวเวสสุวรรณเพราะองค์ที่มีสีชมพูๆนี้จะมีการผสมไม้จันทน์แดงเข้าไปด้วย เป็นไม้มงคลที่หายากชาวล้านนาสมัยก่อนมักฝนกับก้อนหินไว้สรงน้ำพระเจ้าในวันสำคัญต่างๆถือว่าเป็นไม้มงคลสูงค่า ปัจจุบันไม่ค่อยเจอไม้ชนิดนี้แล้วเพราะค่อนข้างหายาก ทำให้คนปัจจุบันเวลาไปทรงน้ำพระจะใช้น้ำส้มป่อย น้ำดอกคำฝอยแทน ถ้าใครอยากรู้จักให้ไปถามคนล้านนาเก่าๆว่ารู้จักไม้จันทร์แดงที่ฝนกับก้อนหินเอาไปทรงน้ำพระมั้ย คนเก่าๆจะรู้จักดี
ท้าวเวสสุวรรณองค์ที่ผสมไม้จันทร์แดงอยู่ด้วยจะหายากกว่าท้าวเวสสุวรรณเนื้อดำหรือน้ำตาล หากท่านดูภาพจะเห็นผงไม้สีแดงๆตามองค์ท้าวเวสสุวรรณ และองค์นี้ถือว่าทรงพระสวย หนา พิมพ์ชัด เนื้อสวยมากๆครับ
| 
