ตำนานความเชื่อที่มาของปลัดขิกน่าจะมีรากเหง้าความเชื่อมาจากอิทธิพลของอินเดียที่แผ่ขยายเข้ามาใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1 ซึ่งชาวฮินดูมีการนับถือแท่งหินที่แกะสลักเป็นรูปร่างของอวัยวะเพศชายตั้งอยู่บนฐาน โยนี เป็นเครื่องหมายแทนองค์พระศิวะหรือพระอิศวรในลัทธิไศวนิกาย อันเป็นตัวแทนของธาตุทั้ง 5 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ และเป็นบิดา มารดาของทุกสิ่งในจักรวาล แม้ในอารยธรรมกรีกหรือโรมันโบราณก็มีการสร้างวัตถุที่มีลักษณะคล้ายกันมีเป็นรูปอวัยวะเพศชายไว้เป็นเหมือนเครื่องรางบูชา สำหรับปลัดขิกในประเทศไทยแล้ว ไม่แน่ว่ามีความเป็นมาตั้งแต่สมัยใดแน่ แต่ต่างจากการนับถือศิวลึงค์ของชาวฮินดู เพราะปลัดขิกของคนไทยถูกสร้างและปลุกเสกจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพระเวทย์และคาถาอาคม คนไทยสมัยโบราณ นิยมห้อยปลัดขิกไว้ที่เอว หรือคอของเด็ก แทบจะทุกคน ที่ผ่านมาในยุคสมัยหนึ่งเด็กผู้ชายไทยมักมีปลัดขิกผูกติดตัวไว้เป็นเครื่องราง ของขลัง เพื่อป้องกันงูเงี้ยวเขี้ยวขอ ตามความเชื่อที่ผู้ใหญ่บอกไว้อย่างนั้น และแม่ค้าพ่อค้าก็มักจะนำมาไว้ที่ร้านค้าหรือบูชาติดตัว โดยมีความเชื่อว่าจะช่วยให้ขายดี ค้าขายคล่อง ขายดีมีกำไร บางคนยังบูชาติดตัวเพื่อเสริมทางด้านมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยมอีกด้วย
ปลัดขิกนี้ถูกแกะจากงา และลงอักขระยันต์เสกโดยพระอาจารย์ นับเป็นความเมตตาอย่างสูง และหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
|