เครื่องรางลักษณะแบบนี้ตอนที่ทางร้านได้มาสมัยก่อนที่เป็นชิ้นแรกนั้น มองดูยังงงๆเป็นเครื่องรางอะไรสักอย่างคล้ายเหมือนไม้เจาะเป็นรูแล้าทารักจารยันต์ลงไป เมื่อมองดูด้านข้างๆรูด้านหนึ่งเล็กอีกด้านหนึ่งกว้าง จะมองเป็นตะกรุดก็น่าจะใช่ มองพิจารณาดูละเอียดแล้วปรากฏว่าเป็นใบลานม้วน(ข้างในคงจะจารอักขระกำกับไว้) จากนั้นนำผงยาหรือผงว่านมาหลูบ(พอก)ทับไว้แล้วปั้นขึ้นรูปเหมือนปี่ จากนั้นนำไปเคลือบด้วยชาดหรือรักปิดด้วยทองคำอีกชั้น แล้วนำไปจารอักขระอีกทีหนึ่ง วิธีการใช้นั้น หากมีลมเพลมพัด เข้าป่าดงพงไพร นอนกลางป่ากลางเขา สถานที่ตรงไหนมีภูตผีสิงสถิตย์อยู่ เวลานอนมีวิญาณมารผจญรบกวน มีคนทำคุณไสยมาหาเรา ผีเข้า เป่าข่มสิงสาราสัตว์ ฯลฯ ให้นำ.....แล้วม้วนสอดในตะกรุดด้านที่มีรูเล็กๆแล้วท่องนะโมฯ3จบ ว่าด้วยคาถา ปะ ................ ภะ วะ(ไม่ขอบอก)แล้วให้เป่าผ่านรูตะกรุดปี่นี้ให้ครบ3ที แล้วก็จะเกิดผลตามที่ต้องการ ตะกรุดปี่ใบลานชิ้นนี้ขนาดเท่ากับท่อนพีวีซี ความยาว3.8นิ้ว ชิ้นนี้อักขระไทใหญ่หรือเงี้ยวด้านนอกไว้ด้วย ความเก่าไม่ต้องพูดถึงอายุร้อยกว่าปี ถ้าเป็นสมัยโบราณตะกรุดแบบนี้จะสร้างขึ้นมาให้กับคนที่ดูแลบริวารมากๆหรือเป็นของคู่กายของเจ้านายชั้นสูงหรือแม่ทัพนายกองในสมัยก่อนใช้คุ้มครองทหารในกองทัพหรือคนหมู่มากที่ต้องเดินทางไปรบแล้วผ่านที่อันตรายผ่านที่เล้นลับจะใช้เป่าคุ้มครองไพร่พลในกองทัพ หรือพ่อค้าที่เดินทางแรมไกลไปติดต่อค้าขายต่างแดนก็จะมีตะกรุดชนิดติดตัวไว้ใช้ยามมีภัยหรือป้องกันคุ้มครองลูกน้องให้ปลอดภัยจากอันตรายสิ่งต่างๆ
ตะกรุดชิ้นนี้เป็นชิ้นที่2ที่ทางร้านได้มา (ชิ้นแรกที่ดูที่หน้าร้านพุทธคุณเมืองน่าน2ในรายการที่60) จะทำรูปแบบเดียวกันโดยมีใบลานม้วนแล้วพอกผงเคลือบรักหรือชาดแล้วทาทอง รูข้างหนึ่งเล็กอีกข้างใหญ่ บางชิ้นมีจารนอกบางชิ้นไม่มีจารนอก ตั้งแต่เล่นมาหลายสิบปีตะกรุดชนิดนี้เท่าที่พบเห็นเจอแค่เพียง10ชิ้น อีกสองชิ้นทางร้านไม่ได้เช่าเพราะไม่มีจารนอก แต่ที่ทางร้านสะสมไว้ทั้งสองชิ้นจะมีการจารด้านนอกเพิ่มมาอีกด้วย ถือว่าเป็นตะกรุดที่หาดูยาก เจอค่อนข้างน้อยแล้วหาคนที่รู้จักน้อยมาก ที่สำคัญปัจจุบันไม่เห็นมีใครสร้าง ที่เห็นๆเป็นของเก่าที่ครูบาอาจารย์ยุค100กว่าปีที่แล้วสร้างทิ้งไว้ให้ จะเป็นของสายเงี้ยว(ไทใหญ่)ครับ
" ตะกรุดเป่าใบลาน จารนอก พอกผง ลงชาด ปาดทอง ต้อง100ปี มีเอกลักษณ์ชัดเจน"
|