พระกรุวัดจุฬามณี พิมพ์หน้าฤาษีหลังนาง เนื้อดิน จ.พิษณุโลก สวยเดิมๆ ไม่อุด ไม่ซ่อม "รับประกันพระแท้โดยงานสมาคม รางวัลที่ 4 ณ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ เมื่อ 23 กรกฎาคม 2560 มาหมาดๆ ใบประกาศรอประมาณ60วัน" และบัตรรับรองพระแท้จากเวป G-PRA

วัดจุฬามณีอยู่ที่ตำบลท่าทอง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก วัดแห่งนี้มีหลักฐานปรากฏโบราณสถาน ศิลปะขอม คือตัวพระปรางค์ขอมที่หลงเหลืออยู่ สันนิษ ฐานว่าในสมัยโบราณคงเป็นศูนย์กลางทางศาสนาตั้งแต่ในสมัยขอมเรืองอำนาจ ดังปรากฏพระปรางค์ศิลาแลงเก่าแก่ประดับลายปูนปั้นหลงเหลืออยู่บ้าง ถึงแม้ว่าในปัจจุบันส่วนยอดพระปรางค์จะชำรุดสูญหายไปแล้วก็ตาม ก็เป็นหลักฐานสำคัญบ่งบอกว่าวัดแห่งนี้เคยเป็นเทวสถานขอมมาก่อน

ต่อมาในสมัยกรุงสุโขทัยก็ได้มีการบูรณะเปลี่ยนแปลงกลายมาเป็นวัดในพุทธศาสนาในที่สุด และได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาโดยตลอดจนถึงในสมัยกรุงศรีอยุธยา ก็ยังคงเป็นวัดสำคัญและได้รับการทำนุบำรุงต่อมา พงศาวดารกรุงศรีอยุธยากล่าวไว้ว่า สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเจ้า ทรงสร้างพระวิหารวัดจุฬามณี และได้ทรงผนวช ณ วัดจุฬามณีถึง 8 เดือน แสดงว่าวัดจุฬามณีเป็นวัดสำคัญมากในสมัยอยุธยาเรืองอำนาจ ถึงขนาดพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทรงปฏิสังขรณ์ สร้างโบราณสถานและทรงผนวชอยู่นานถึง 8 ปี

นอกจากนี้ยังพบศิลาจารึก อยู่ที่หน้ามณฑปรอยพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งเป็นจารึกในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยสมเด็จพระนารายณ์ทรงโปรดให้จารึกไว้ในคราวที่ทรงจำลองรอยพระพุทธบาทที่สระบุรีประดิษฐานที่วัดจุฬามณีแห่งนี้ เมื่อปีพ.ศ.2222

ประวัติโดยย่อของวัดจุฬามณี พิษณุโลก ดังที่เล่ามานี้คงจะทำให้เข้าใจในความสำคัญของวัดแห่งนี้ได้เป็นอย่างดีว่าวัดจุฬามณีเป็นวัดสำคัญมาแต่โบราณกาล เริ่มตั้งแต่ขอมเรืองอำนาจมาจนถึงครั้งกรุงศรีอยุธยา เท่าที่มีการพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ที่วัดจุฬามณีแห่งนี้ มีการพบพระเครื่องขึ้นชนิดหนึ่ง มีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่ว ที่เรียกกันว่า "พระวัดจุฬามณี" ในสมัยก่อนวัดจุฬามณีอยู่ติดกับลำน้ำน่านมาก สามารถล่องเรือจากตัวเมืองพิษณุโลกมาถึงวัดจุฬามณีได้ ในฤดูน้ำหลากเจดีย์ที่บรรจุพระถูกน้ำท่วมถึง ทำให้พระส่วนใหญ่ถูกแช่น้ำ ในสมัยก่อนบางคนจึงเรียกกันว่า "พระกรุน้ำ"

พระเครื่องของกรุนี้ที่พบ ส่วนใหญ่มักเป็นพระเนื้อดินเผา และที่แปลกกว่าพระกรุอื่นๆ ก็คือพบแบบที่เป็นพระพิมพ์สองหน้า มีอยู่หลายพิมพ์ โดยส่วนมากด้านหนึ่งเป็นรูปพระปางสมาธิ อีกด้านเป็นพระนางพญา และด้านเป็นพระพิมพ์มีซุ้มแบบพระพุทธชินราช ด้านหลังเป็นแบบนางพญา และพิมพ์หน้านางหลังนางเป็นต้น พระพิมพ์สองหน้านี้ยังพบอีกหลายพิมพ์ ในส่วนที่เป็นแบบหน้าเดียวก็มีเช่น พิมพ์พระพุทธรูปปางสมาธิอยู่ในซุ้มรัศมีเป็นต้น

ศิลปะขององค์พระเท่าที่พิจารณาดู สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพระที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น ราวสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาภ ในคราวที่ทรงผนวชและสร้างพระวิหารไว้ที่วัดจุฬามณี

"พุทธคุณเท่าที่ปรากฏเด่นทางอยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด และเมตตามหานิยม ทางด้านโภคทรัพย์ทำมาค้าขาย"