สีผึ้งเมตตามหานิยม-มหาเสน่ห์
อีก1วัตถุมงคลที่สร้างชื่อให้กับหลวงพ่อบุญค้ำ วัดชัยเภรีย์นั้นคือสีผึ้งเมตตามหาเสน่ห์มหานิยมเป็นตำราที่ท่านพระอาจารย์ได้รับการถ่ายทอดมานานและท่านก็ได้ทำให้เหล่าบรรดาลูกศิษย์ไว้บูชาแล้วต่างเห็นผลประจักจริงดั่งตำราเรื่องเมตตามหานิยม คนที่เกลียดกลับมารักดังเดิมได้จริงๆ ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นพระชาวบ้าน ลูกศิษย์เขารู้กันแบบเงียบๆ หรือแม้กระทั่งผมเอง(ธันชนก)ได้พบเจอและสัมผัสกับท่านมาแล้ว ท่านก็ไม่ดังออกสื่อ แต่ท่านก็ดังเฉพาะวงในเท่านั้น เรื่องวัตถุมงคลที่พระอาจารย์ท่านได้สร้างประเภทเครื่องรางของขลังนั้น แม้แต่ตัวของผมเองนั้นยังนำมาบูชาและพกติดตัวอยู่เสมอครั้งนี้ผมเลยขออนุญาตหลวงพ่อ วัดชัยเภรีย์ นำเรื่องราวการสร้างสีผึ้งสุดยอดเมตตามหานิยม-มหาเสน่ห์มาให้ท่านได้อ่านกันเพื่อให้ได้รู้ว่าการสร้างสีผึ้งจริงแบบไม่ต้องซื้อจากโรงงานมาปลุกเสกนั้นเป็นยังไง
แต่เดิมตำราที่หลวงพ่อท่านร่ำเรียนมาทุกอย่างรวมไปถึงวิธีการหุงสีผึ้งนั้นท่านเรียนมาจากอาจารย์พ่อเฒ่าจูม ฆารวาสจอมขมังเวทย์เชื้อสายลาวเวียงจันทร์อยู่ที่บ้านโข้ง จ.สุพรรณบุรี เป็นที่พึ่งของชาวบ้านในสมัยนั้น ไม่ว่าจะเรื่องดูดวงเรียกคนรักกลับมารักษาไข้โรคภัยไข้เจ็บ ทำตะกรุดต่างๆวิชาอาคมท่านขลังนักถือเป็นพ่อครูอาจารย์องค์แรก(ท่านเสียชีวิต อายุ102 ปี)ที่ถ่ายทอดวิชาคาถาอาคม ให้กับหลวงพ่อบุญค้ำ
ในส่วนของการจัดสร้างสีผึ้งนั้น เริ่มต้นที่ต้องหาวัตถุที่ต้องมาเป็นมวลสารคือ.....
1.ขี้ผึ้งแท้ๆ(มากพอสมควร)
2.สีผึ้ง7ปาก7ตลาด
1.ตลาดปากช่อง 2.ตลาดปากน้ำ 3.ตลาดปากพนัง 4.ตลาดปากท่อ 5.ตลาดปากคลองตลาด 6.ตลาดปากเกล็ด 7.ตลาดปากน้ำโพ
3.ดินติดหัวหมูไถนา7ทุ่ง(ต้องเป็นทุ่งนาที่ไม่เป็นหนี้ หรือติดจำนอง)
4.เม็ดงา7 เจ้าของ(ต้องไปขโมยอย่างละ1กำจากในไร่เศรษฐีเท่านั้น แล้วมาสกัดเป็นน้ำมันงา )
5.ไคลดินไม้โพรงบ่อน้ำ 7 บ่อ(ไม้ที่อยู่ตรงกลางปากบ่อ ที่สำหรับไว้ไช้ดึงน้ำขึ้นจากบ่อน้ำ)
6.น้ำมันว่านมหานิยมที่ต้องนำมาหุงเอง
1.ว่านเสน่ห์จันทร์โพธิ 2.ว่านเสน่ห์จันทร์เขียว 3.ว่านเสน่ห์จันทร์ขาว 4.ว่านเสน่ห์จันท์แดง 5.ไม้ไก่กุก
7.มวลสารอีก1ชนิดที่สำคัญที่สุดคือ..น้ำตาเด็กร้องให้ตามแม่3คน (แต่ต้องมีข้อแม้ว่า ต้องเป็นลูกชายหัวปี พ่อแม่ต้องสวย ต้องงาม ต้องมีฐานะค่อนข้างรวย พ่อแม่เด็กและเด็กต้องไม่มีโรคประจำตัว และที่สำคัญ เด็กต้องร้องให้ตามแม่กลางตลาดที่ผู้คนพลุกพล่าน ชื่อของตลาดต้องเป็นมงคล ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐี)
**และยังมีส่วนผสมและว่านตามตำราบั้งคับอย่างอื่นผสมอีกหลายชนิด**
เมื่อหาครบตามตำรากำหนดแล้วต้องน้ำมาทำพิธีหุงสีผึ้งในโบสถ์ ก้นหม้อที่จะหุงสีผึ้งนั้นจะมีแผ่นทองคำเขียนจารยันต์บังคับคือ หัวใจพระปาฎิโมกข์ นำวัตถุมงคลใส่ในหม้อให้หมดแล้วเตรียมไม้ฟืนชื่อที่เป็นมงคล มหานิยมมาเป็นเชื้อเพลิงเวลาหุงสีผึ้งคือ..
1.ไม้รัก 2.ไม้มัยม 3.ไม้สัก 4.ไม้คูณ 5.ไม้ขนุน 6.ไม้ปากค้ำ 7.ไม้ไผ่สีสุก 8.ไม้มะขาม 9.ไม้กาหลง
เวลาจะจุดไฟต้องหาไฟมาจาก3บาง หรือไม้ขีดไฟ คือ
1.ไม้ขีดไฟจากบางรัก 2.ไม้ขีดไฟจากบางละมุง 3.ไม้ขีดไฟจากบางบัวทอง
เมื่อเริ่มทำพิธีจะมีการสวดพุทธมนต์ปลุกเสก ผู้ที่เข้าร่วมช่วยในพิธีจะทำการกวนสีผึ้ง โดยใช้ขอสับช้าง(ต้องเป็นขอสับช้างที่ผ่านการใช้บังคับช้างจริงๆ เป็นเคล็ดที่ว่า ขนาดช้างตัวโตยังต้องทำตามขอ ) เมื่อหุงเสร็จแล้วจะต้องลงยันต์ ตรีนิสิงเห ปิดปากหม้อสีผึ้งและทำการปลุกเสกจนเสร็จพิธี
**ในการทำสีผึ้งจะต้องทำในคืนวันเพ็ญเดือน12 เท่านั้น**
เห็นไหมล่ะครับว่ามวลสารต่างๆที่จะทำสีผึ้งเมตตามหานิยม-มหาเสน่ห์นั้นหายากเพียงไหน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหาไม่ได้แต่ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก มวลสารทั้งหลายทั้งปวงนั้นเป็นมวลสารจากว่าน ไม่มีส่วนผสมของที่เกี่ยวกับผงพราย อาถรรพ์เกี่ยวกับศพแต่อย่างใด การปลุกเสกนั้นจะใช้อำนาจจิต พิธีกรรมที่ดีตามฤกษ์ยาม แรงแห่งครูบาอาจารย์ และพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เป็นส่วนใหญ่ จะเห็นได้ว่าเมื่อปีไหน ของที่จะทำสีผึ้งหาไม่ครบ ปีนั้น หลวงพ่อท่านจะไม่ทำเป็นอันขาด แม้ว่าจะขาดไปเพียงแค่อย่างเดียวก็ตาม
ในส่วนของพุทธคุณสีผึ้งนั้น ว่ากันว่าผู้ที่บูชาอารธนาคุณแห่งสีผึ้งนี้เอานิ้วแตะสีผึ้งแล้วเจิมที่หน้าผาก ผู้ที่พบเห็นเวลาไปไหนก็จะมีแต่คนนิยมชมชอบ เป็นเมตตามหาเสน่ห์อย่างเยี่ยมยอด จะเจรจาค้าขายสิ่งใดก็จะมีคนอุดหนุน เอาเจิมที่ป้ายร้านค้า หน้าร้านก็จะมีคนเข้ามาอุดหนุนร้านเนืองแน่น(พวกพ่อค้า แม่ค้าชอบมาก) จะใช้จีบใครก็เป็นเสน่ห์แก่คนผู้นั้น เป็นที่ต้องตาต้องใจเพศตรงข้ามเป็นอย่างดีใครที่เคยเกลียดเรา เมื่อเห็นหน้าเราก็กับมารักและเอ็นดูเราเหมือนเดิม.. ถ้าเอาสีผึ้งมาทาที่ปากก็เหมือนกันกับแตะหน้าผากนั่นแหละครับแต่หลวงพ่อท่านว่าเมื่อเราทาที่ปากแล้วเวลาถ่มน้ำลาย(บางครั้งลืมตัว)เราต้องทาที่ปากใหม่ ท่านว่า..เปลืองสีผึ้ง เพราะสีผึ้งนี้ทำยาก แค่พกติดตัวหรือกระเป๋าก็เป็นมหานิยมแล้วครับ
ถามผมว่าเอาไปแตะผู้หญิงล่ะ .?...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผลจะเป็นยังไง
ต้องขอขอบคุณหลวงพ่อวัดชัยเภรีย์ มา ณ ที่นี้ ที่ให้ความรู้เรื่องสีผึ้งตามตำหรับวัดชัยเภรีย์มาเผยแพร่ข้อมูลในเวปพระล้านนาแห่งนี้ ขอบคุณลูกศิษย์ของหลวงพ่อทุกคนที่เล่าประสบการณ์ปาฏิหารย์ต่างๆเรื่องสีผึ้งของสำนักนี้ให้ฟัง แต่ผมไม่อาจนำเรื่องราวที่หลายๆท่านเล่ามาลงในเวปได้เพราะจะเป็นการยกยอ หลวงพ่อจนเกินไป เพราะทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ โดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดี บางคนไม่เคยเจอหลวงพ่อ ไม่เคยได้สัมผัสด้วยตัวเอง เขาจะว่าเชียร์เกินงาม แต่ถ้าใครเคยเจอแล้วเขารู้เองครับว่าเป็นยังไง
ถ้าใครอยากได้สีผึ้งมหาเมตตา มหาเสน่ห์ สีผึ้งที่ทำจริงไม่ได้มีศูนย์พระทำให้ ไม่หลอกชาวบ้าน หรือทำแบบสุกเอาเผากิน ก็ไห้ไปที่วัดชัยเภรีย์ จ.สุพรรณบุรีเอง ของผมมีไว้ใช้และบูชาไม่ได้มีไว้จำหน่ายครับ เพียงแค่อยากเขียนให้อ่านกันก็แค่นั้น
|