ผมก็คนหนึ่งแหละครับที่ชอบเสาะแสวงหากราบพระตามวัดต่างๆ ถึงแม้ว่าผมจะรักและศรัทธาครูบาอาจารย์แห่งคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโกมาตลอด แต่ผมก็ยังที่จะตะเวนกราบพระแท้เสมอเพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเนื้อนาบุญของโลกที่ปฎิบัติตามคำสั่งสอนพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนาอย่างดี ศีลไม่ด่างพร้อย ไม่เห็นแก่ปัจจัย ไม่ถือตัวว่าเป็นพระเกจิดัง อยู่อย่างเรียบง่ายสมถะ ภายในบริเวณวัดไม่สร้างสิ่งปลูกสร้างแบบอลังการณ์
ผมขอย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2554 ในตอนนั้นทางคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโกได้รับข่าวว่ามีพระอาจารย์องค์หนึ่งอยู่ จ.สุพรรณ อ.อู่ทอง ท่านเป็นพระที่เก่งมากเป็นพระชาวบ้านนี่แหละแต่วิชาท่านเยอะ เป็นพระที่ไม่ดังไม่ออกสื่อ แต่คนในพื้นที่ให้ความเคารพกัน ด้วยความที่อยากรู้ น้องผมที่ชื่อว่า เบนส์ ภูวนาท สุนิล เลยเข้าไปกราบท่านฝากตัวเป็นลูกศิษย์เลยรู้ว่าพระอาจารย์องค์นี้ไม่ธรรมดาเสียแล้ว เมื่อกลับมาก็ได้มาแจ้งข่าวแก่คณะว่าเก่งจริง ตั้งแต่นั้นมาทางพี่น้องๆของคณะศิษย์รัศมีพรหมก็เข้าไปกราบท่านกันตลอด เลยทำให้ผมต้องรีบไปดูให้เห็นกับตาว่าท่านเป็นยังไง จริงเท็จแค่ไหน.....
ท่านชื่อว่า พระอาจารย์บุญค้ำ ปฺญฺญูปถฺมฺโภ แห่งวัดชัยเภรีย์ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี พระแท้แห่งเมืองอู่ทอง บ้านโข้ง ที่ลูกศิษย์ที่เคยมากราบฝากตัวเป็นลูกศิษย์หวงมากองค์หนึ่ง ที่ไม่อยากให้ท่านได้เปิดตัวออกสื่อ ด้วยกลัวที่จะท่านจะรับงานมากเกินไปกลัวจะเป็นผลเสียที่ต้องเป็นเหตุทำให้สุขภาพท่านไม่แข็งแรง เพราะท่านเป็นพระที่มากด้วยความเมตตาต่อผู้ที่มากราบท่านทุกคน ท่านเป็นพระบ้านๆไม่เย่อหยิ่งว่าตัวเองเป็นถึงพระเกจิอาจารย์ จนมีคำนิยามที่เหล่าลูกศิษย์กล่าวกันว่า
“ใครได้ ไปรดน้ำมนต์ อาบน้ำมนต์จากหลวงพ่อบุญค้ำ จะหมดเคราะห์หมดภัย จากคนจนจะเป็นคนมั่งมีเป็นมหาเศรษฐี ไม่ตายโหงจากร้ายกลายเป็นดี”
เป็นคำนิยามที่เหล่าบรรดาลูกศิษย์ท่านกล่าวกันมานานมาก เมื่อเข้ามากราบฝากตัวเป็นศิษย์ท่าน (โดยที่คนที่พาผมเข้ามากราบคือคุณภูวนาท สุนิล หรือ เบนส์)จึงได้รู้ว่าท่านมีดีกว่าที่เหล่าบรรดาลูกศิษย์เหล่านั้นพูดกัน พระอาจารย์บุญค้ำ ท่านนั้นเก่งหลายอย่างมาก ทั้งวิชาเสกปลัดขิก ทั้งตะกรุดและที่สุดคือสีผึ้งมหาเสน่ห์มหานิยม และอีกหนึ่งวิชาที่เด็ดสุดคือ...(ผมไม่ขอเอ่ยนะครับใครที่เป็นศิษย์ท่านย่อมรู้ดีว่านี่แหละสุดยอดของจริง).....แต่ก่อนท่านว่า “ที่ข้าสร้างวัดได้มานี่ เมื่อก่อนเขามาขอให้ข้าดูดวงแล้วก็ช่วยกันร่วมทำบุญสร้างวัดทั้งนั้นแต่ตอนนี้ข้าเลิกดูแล้วเพราะมันดูยังไงก็ไม่จบสิ้น.....”
ท่านเป็นพระที่มีวิชามากจริงๆ ท่านจะเน้นย้ำเสมอว่า “ถ้าจะทำวัตถุมงคลมาสัก1อย่างต้องให้ดีตามตำราที่ร่ำเรียนมา เมื่อถ้าไม่ดีก็ไม่ต้องสร้าง ถ้าบูชาแล้วไม่เกิดผลเขาจะว่าเอาได้ จะเสียถึงครูบาอาจารย์ หรือแม้ว่าของบางอย่างจะขาดไปสักหนึ่งอย่างข้า..ก็จะไม่ทำเด็ดขาด ท่านก็ยังพูดว่า..เหมือนเราไปหลอกชาวบ้านที่เขาศรัทธาในตัวข้า...”
ในเรื่อวัตถุมงคลท่านก็จัดสร้างมาหลายปีแล้ว แต่จะเป็นเครื่งรางของขลังเสียส่วนใหญ่เพราะคนที่เอาไปบูชาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าดีขึ้นชีวิตเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดีกันเยอะมาก ส่วนเรื่องเหรียญรุ่นแรกนั้นท่านจัดสร้างเองเมื่อปี พ.ศ.2536 เป็นเหรียญเนื้อเงินรุ่นแรก สร้างแค่500 เหรียญ เท่านั้น(ปัจจุบันหายากสุดๆ ใครมีทางวัดชัยเภรีย์รับซื้อคืนครับ) แต่ต่อมาทางวัดลาดปลาเค้า กรุงเทพฯ ซึ่งศรัทธาพระอาจารย์ได้จัดสร้างเหรียญต่างๆให้กับพระอาจารย์บุญค้ำทำการปลุกเสก เพื่อนำเงินที่บูชาวัตถุมงคลไปช่วยบูรณะวัดอื่นๆซึ่งพระอาจารย์บุญค้ำท่านก็อนุญาต
ทุกวันนี้แม้แต่ศูนย์พระเครื่องชื่อดังต่างๆยังมาขอท่านสร้างเหรียญหรือวัตถุมงคลอื่นๆเกือบจะทุกวัน แต่ท่านก็ไม่อนุญาตให้ใครสร้างทั้งนั้น ท่านบอกเองครับว่าเมื่อก่อนข้าสร้างวัดเป็นวัดได้เพราะข้าดังเรื่องน้ำมนต์ ปลัดขิก มาตั้งนานแล้ว จนในปีนี้พ.ศ.2556 ทางพระอาจารย์บุญค้ำท่านปรารภว่า จะสร้างเหรียญเองเป็นรุ่นที่2ของท่านที่จะออกให้ลูกศิษย์ลูกหาบูชาในนาม วัดชัยเภรีย์ จริงๆ เพื่อจะนำรายได้สร้างพระเจดีย์ที่ทางวัดเองกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ ผมก็เลยขอเหรียญท่านมานำมาเป็นของที่ระลึกแก่ผู้ที่ร่วมบริจาคเงินสร้างพระเจดีย์ให้แล้วเสร็จ
โดยลักษณะเหรียญเป็นทรงเสมา มีรูปเหมือนพระอาจารย์นั่งบนโต๊ะขาสิงห์ มีบาตรน้ำมนต์ ไม้พรหมน้ำมนต์ มีลิงถือถุงเงิน และถุงทอง2ตัวหน้าบาตรน้ำมนต์ ข้างกลังเป็นยันต์อิติปิโสแปดทิศ ซึ่งถือว่าเป็นยันต์ดั้งเดิมแต่โบราณ ท่านว่ายันต์นี้วิเศษในตัว จะเน้นหนักทางเสริมบารมี วาสนา ไม่อดอยาก มีขุมทรัพย์ กันภัยทั้งปวง เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม ทำมาค้าขายคล่อง สุดแล้วแต่อธิฐานขอเลยก็ว่าได้ (อีกทั้งยังมีรูปลิงที่ถือถุงเงิน ถุงทองอีก ท่านว่าลิงเป็นสัตว์ที่หากินเก่ง ฉลาด ทำไรก็ว่องไว )ที่ท่านได้รับการถ่ายทอดมาจาก อาจารย์พ่อเฒ่าจูม ฆารวาสชาวลาวอพยบที่ถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆให้กับพระอาจารย์บุญค้ำในสมัยก่อน
ในการจัดสร้างนี้มี3เนื้อคือ..
1.เหรียญเนื้อทองคำ 4 เหรียญ หนัก1บาท(หมด)
2.เหรียญเนื้อเงินบริสุทธิ์140 เหรียญ
3.เหรียญเนื้อทองแดงสร้าง10,000 เหรียญ (เหรียญทองแดงนี้ท่านได้ผสมเหรียญ25 ส.ต. และ50 ส.ต.เป็นจำนวนมาก คุณสุรเดช ได้ถวายให้พระอาจารย์บุญค้ำเพื่อเป็นเคล็ดว่าเงินทองจะไหลเข้ากระเป๋าไม่ขาดสาย)
เหรียญรุ่นนี้ทางพระอาจารย์บุญค้ำ ตั้งใจจัดสร้างอย่างเต็มที่มีการปลุกเสกเองโดยบอกกล่าวครูบาอาจารย์ท่าน โดยในนิมิตรการปลุกเสกพระชุดนี้มีเทวดามาร่วมอนุโมทนาแถมเหล่าครูบาอาจารย์ เทวดาทั้งหลายยังกล่าวอีกว่า พระเครื่องชุดนี้คนที่บูชาจะเป็นคนที่มีวาสนา จะเจริญทุกประการ เมื่อปลุกเสกเสร็จ ท่านเลยตั้งชื่อพระรุ่นนี้ว่า รุ่นมีวาสนา ท่านยังกล่าวทิ้งท้ายว่าเหรียญรุ่นนี้จะเป็นเหรียญที่คนจะตามหากันทั้งประเทศในอนาคต
ผู้ที่อยู่เชียงใหม่สนใจบูชาเหรียญรุ่นนี้ติดต่อที่ ร้านหนานน้อย เวปพระล้านนา
ผู้ที่อยู่ลำพูน ติดต่อได้ที่ผม ธันชนก ครับ
เพราะพวกเราขออนุญาตท่านนำมาร่วมกันทำบุญแค่100 เหรียญเท่า เนื้อเงิน20 เนื้อทองแดง80 ถ้าหมดแล้วหมดเลยผู้ที่เป็นลูกศิษย์อาจารย์บุญค้ำท่านอยู่แล้วอยากจะได้ให้ไปติดต่อเดินทางไปวัดชัยเภรีย์เท่านั้นครับ รายได้ทุกบาททุกสตางค์ร่วมกันสร้างพระเจดีย์ทั้งหมดครับไม่หักค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
|