ความรักไม่ห่างหาย
กระวนกระวายแสนคิดถึง
จิตประหวั่นพรั่นพรึง
เพ้อรำพึงถึงแต่เธอ
ไม่ต้องสงสัยนะครับ แต่งกลอนนี้มาเพื่ออะไรกัน
ถ้าไม่ใช่เพราะตะกรุดเกาะเพ็ชร มหานิยมหลวง ของท่านครูบาสิริฯ วัดปากกอง
มหานิยมหลวง เพียงแค่ชื่อก็คงรู้แล้ว ว่ามีพุทธคุณในด้านใด
หนุ่มสาวคนใด มีท่านแล้ว จะสมหวังในด้านความรัก เรียกว่ารักใครไม่มีพลาด แต่ถ้าแต่งงานแล้ว ก็ควรก็ต้องหักห้ามใจในเรื่องเพศตรงข้ามที่จะเข้ามาพัวพัน เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ดี( ไม่แพ้ผ้ายันต์เสพนาง ของท่านครูบาต๋า วัดบ้านเหล่า หรือ ผ้ายันต์เสพนางของครูบาวัง วัดบ้านเด่น นั่นเอง)
ตะกรุดนี้ มีดีเท่านี้หรือ ไม่ใช่อย่างแน่นอน ชื่อ ก็บอกแล้ว พุทธคุณ นอกจากทางด้านความรักแล้ว เมื่อมีตะกรุดนี้ ทั้งมนุษย์ อมนุษย์(พวกโจรผู้ร้าย) หรือแม้แต่ในโลกแห่งจิตวิญญาน ก็ล้วนแต่ให้ความรักใคร่เอ็นดู ทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น ใช้เพื่อเข้าหาผู้ใหญ่ หัวหน้า เจรจาทางการค้าหรือกิจธุระอันจำเป็นใดๆ เป็นอันสมหวังดังใจทั้งสิ้น หรือแม้แต่ โจรผู้ร้ายจะมาปล้น เมื่อพบเห็นเป็นต้องใจอ่อนกับเราในทันที การเข้าหาเพศตรงข้าม ฯลฯ
เมื่อเป็นเช่นนี้ คงอยากได้กันแล้วใช่ไหม
ถ้าอยากได้ ก็คงต้องเสาะแสวงหากัน แต่จะทำอย่างไรได้ไม่มากนัก ในเมื่อตะกรุดนี้ ท่านครูบาสิริฯจัดสร้างเพียงแค่ 41 ดอกเท่านั้น น้อยยิ่งกว่าผ้ายันต์ของครูบาต๋า เสียอีก ที่มีประมาณ 300 ผืน (ไม่นับรวมรุ่นใหม่ที่ทำเสริมในปัจจุบัน ที่จัดขึ้นในภายหลัง หลังจากที่ท่านครูบาต๋า ได้มรณะภาพไปแล้ว ซึ่งเห็นมีประกาศขายกันอยู่ในปัจจุบัน ขอให้ใช้ความระมัดระวังกันด้วยนะครับ)
ลักษณะของตะกรุดนี้
จะเป็นตะกรุดเนิ้อโลหะม้วน(เป็นทองแดงหรือทองเหลืองไม่แน่ใจ) พอกครั่ง ขนาดกว้างประมาณ สามใน สี่ นิ้ว ยาวประมาณ 3 นิ้ว(หากยาว 2.5 นิ้ว จะเป็นตะกรุดเกาะเพ็ชร นาคแม่ หรือหากยาว 4 นิ้ว จะเป็นตะกรุด เกาะเพ็ชร อรหันต์ ยันต์สี่ทิศ)
ครั่งที่นำมาพอก จะมีส่วนผสมของ เบญจทราย ทรายนี้ ได้นำมาจาก สังเวชนียสถาน (สถานที่อันเป็นที่ ประสูติ (คืออุทยานลุมพินี) ตรัสรู้(ควงไม้โพธิ์ พุทธคยา) แสดงปฐมเทศนา( ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี (ปัจจุบันเรียก สารนาถ)) และ ปรินิพพาน(สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา (ปัจจุบันเรียก กาเซีย)) ปัจจุบันจะอยู่ทั้งในประเทศอินเดียและเนปาน ส่วนทรายที่เหลือ ไม่ทราบแน่ชัด ว่าท่านครูบาสิริฯ นำมาจากแห่งใด
ท่านครูบาสิริ ฯนำเบญจทราย มาปลุกเสก เป็นทรายเสก (อันมีพุทธคุณ ในทางป้องกันคุณไสย ภูตผีปีศาจร้ายต่างๆ)มาผสม ปนกับครั่ง ที่พอกตะกรุด อันเป็นตำนานของตะกรุดเกาะเพ็ชร นั่นเอง
ตะกรุดนี้ จัดสร้างขึ้นในปี 2521 เพื่อให้พุทธคุณคงอยู่ในตะกรุดนี้ตราบนานเท่านาน ท่านครูบาสิริฯได้ทำการปลุกเสกเป็นระยะเวลาอันยาวนานถึง 14 ปี เสร็จสิ้นพิธี เมื่อวันที่ 3 กพ 35 เสร็จพิธีก็มิได้นำออกให้บูชา ยังคงเก็บไว้ในกรุ เพิ่งจะเปิดกรุ เมื่อวันที่ 7 มีค 53 เอง
(ในความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน เห็นว่า ท่านครูบาสิริฯ มีความตั้งใจทำวัตถุมงคลของท่านจริงๆ จะเห็นได้จากระยะเวลาปลุกเสกที่ยาวนานมาก ในการจัดทำแต่ละอย่าง รวมทั้ง ยังนำบางส่วนไปเข้าร่วมในพิธีปลุกเสกในสถานที่ต่างๆ กับพระเกจิ ต่างๆอีกด้วย นี่เอง อันทำให้ผู้ที่ได้บูชาพกติดตัว หรือบูชาที่บ้านเรือน ได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ ประสบการณ์ อันเป็นที่เล่าขานตราบนานเท่านาน วัตถุมงคลของท่าน จึงมีคุณค่าเป็นอย่างมากในการที่จะเก็บรักษา สะสม เป็นที่หวงแหน ยิ่งนัก)
ก่อนจะใช้ ก็ต้องอาราธนากันก่อน
คาถา มีดังนี้
นะโม(สามจบ)
นะ ผูกจิต
โม ผูกใจ
พุทธ อยู่มิได้
ธา ร้องไห้
ยะ เอ็น ดู
นะ มาหากู
พุทธะ สังมิ
(สามจบ)
ถ้ารักจริงหวังแต่ง (ห้ามทอดทิ้งอย่างเด็ดขาด ขอย้ำ บาปจะติดตัว) ให้นำคาถานี้ทำน้ำมนต์ พร้อมทั้งนำตะกรุดนี้แช่ในน้ำมนต์ ขณะว่าคาถา แล้วนำไปให้หญิง หรือชาย ที่เรารัก ไปดื่มกิน ความสมหวัง สมปรารถนา แล
|