พระกริ่งนเรศวร
พิธีใหญ่อีกครั้งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๑ คือ พิธีการเตรียมสร้างพระกริ่งนเรศวรที่เมืองงาย อำเภอเชียงดาว ซึ่งเป็นพิธีใหญ่ ศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันพระกริ่งเมืองงาย เป็นพระที่หายากและมีราคาแพง
น่าสนใจด้านความเป็นมา และพิธีการในครั้งนั้น
"ทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพิธีสร้างพระกริ่งนเรศวรฯ"
"พตอ.นิรันดร ชัยนาม ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้แถลงแก่ผู้แทนหนังสือพิมพ์ ทราบถึงโครงการที่จะทำพิธีพุทธาภิเศกพระกริ่งนเรศวรเมืองงาย พระพุทธสิหิงค์ พระเชียงแสน เหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระร่วงทรงปืน และขันน้ำพระพุทธมนต์ พระกริ่ง เนื่องในโอกาสที่จะสร้างพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชานุสรณ์ ที่บ้านเมืองงาย ต.เมืองงาย อ.เชียงดาวเชียงใหม่
"โครงการนี้เป็นความประสงค์ของทางการจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไป และได้รับพระบรมราชานุญาตให้สร้างได้
"ดังนั้น ทางการจังหวัดเชียงใหม่จึงมีความดำริจะจัดทำพิธีพุทธาภิเศกพระพุทธรูป พระกริ่ง และเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตลอดจนขันน้ำพระพุทธมนต์ดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ประชาชนเช่า นำรายได้มาสร้างพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชดังกล่าว
"โดยจะประกอบพิธีพุทธาภิเศกประมาณเดือนมกราคม ๒๕๑๒ สถานที่จะประกอบพิธี คือ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ทั้งนี้จะได้กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯมาในงานพิธี ครั้งนี้ด้วย และหากไม่สามารถจะเสด็จได้ ก็จะทูลเชิญสมเด็จพระสังฆราชเสด็จฯ แทน นอกจากนั้นจะได้นิมนต์พระสงฆ์ผู้ทรงคุณวุฒิและพระเกจิอาจารย์ที่เลื่องลือ และมีชื่อเสียงจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศมาร่วมพิธี
"ก่อนที่จะดำเนินงานพุทธาภิเศก ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะผู้เกี่ยวข้อง จะได้เดินทางไปทำพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่จังหวัด พิษณุโลกในเร็วๆ นี้ โดยจะได้เรียนเชิญพระราชครูวามเทพมุณี ประธานพระครูพราหมณ์ เป็นผู้มาประกอบพิธีด้วย
"พระพุทธรูปและเหรียญที่จะสร้างขึ้นมีดังนี้
พระกริ่งนเรศวรเมืองงายเนื้อโลหะ สร้างตามจำนวน พ.ศ. คือ ๒๕๑๒ องค์ ราคาองค์ละ ๓๐๐ บาท
เหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเนื้อโลหะทองแดงโลมดำ รูปกลม ขนาดเท่าเหรียญบาทเป็นรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชครึ่งองค์ มีอักษรไทยระบุพระนามสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อีกด้านหนึ่งเป็นรูปพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่จะสร้างที่บ้านเมืองงาย อ.เชียงดาว มีอักษรพื้นเมืองข้อความว่า 'สร้างเทิดพระเกียรติเป็นอนุสรณ์ คราวเสด็จประทับเมืองงาย พ.ศ.๒๑๔๘' จะสร้าง ๕๐,๐๐๐ เหรียญ ราคาเหรียญละ ๑๐ บาท
พระพุทธสิหิงค์ หรือพระสิงห์ เนื้อสามกษัตริย์(ทอง,เงิน,นาค) และเนื้อสัมฤทธิ์ จำลองจากพระพุทธสิหิงค์ วัดพระสิงห์เชียงใหม่ มีขนาด ๑๒ นิ้ว ๙ นิ้ว ๗ นิ้วและ ๕ นิ้ว สร้างตามจำนวนที่สั่งจอง มีราคาประมาณดังนี้
ขนาด ๑๒ นิ้ว เนื้อสามกษัตริย์องค์ละ ๒,๕๐๐ บาท เนื้อสัมฤทธิ์ องค์ละ ๒,๒๐๐ บาท
ขนาด ๙ นิ้ว เนื้อสามกษัตริย์ องค์ละ ๑,๘๐๐ บาท เนื้อสัมฤทธิ์ องค์ละ ๑,๖๐๐ บาท
ขนาด ๗ นิ้ว เนื้อสามกษัตริย์องค์ละ ๑,๒๐๐ บาท เนื้อสัมฤทธิ์องค์ละ ๑,๑๐๐ บาท
ขนาด ๕ นิ้ว เนื้อสามกษัตริย์องค์ละ ๕๕๐ บาท เนื้อสัมฤทธิ์ องค์ละ ๔๕๐ บาท
พระเชียงแสน เนื้อสามกษัตริย์อย่างเดียว จำลองจากพระเชียงแสน วัดดับภัยเชียงใหม่ ขนาด ๕ นิ้วอย่างเดียว ราคาองค์ละ ๕๕๐ บาท สร้างตามจำนวนที่สั่งจอง
ขันน้ำพระพุทธมนต์ พระกริ่ง เนื้อทองแดงโลมดำ มีขันน้ำพานรองและฝาปิด ด้านในขันและบนฝาปิดมีพระกริ่ง ราคาชุดละประมาณ ๓๐๐ บาท สร้างขึ้นจำนวน ๑๐๐ ชุด
พระร่วงรางปืน เนื้อทองแดงโลมดำ ราคาประมาณองค์ละ ๑๐ บาท สร้างประมาณ ๑๐,๐๐๐ องค์.(นสพ.คนเมือง,๑๐ สิงหาคม ๒๕๑๑)
นอกจากนี้มีรายงานข่าวเกี่ยวกับการเตรียมการสร้างอนุสาวรีย์พระนเรศวรที่เมืองงาย อำเภอเชียงดาว (นสพ.คนเมือง,๑๕ ต.ค. ๒๕๑๑)
"อนุสาวรีย์พระนเรศวรที่เมืองงาย สร้างลักษณะยืนหลั่งน้ำสิโรทก"
"พตอ.นิรันดร ชัยนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้แถลงต่อผู้แทนหนังสือพิมพ์ ถึงการดำเนินงานเตรียมสร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวร ณ บ้านเมืองงาย อ.เชียงดาว ตลอดจนการสร้างพระกริ่งนเรศวร เพื่อให้ประชาชนเช่าไปบูชา นำเงินรายได้เป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรว่า
"ขณะนี้เฉพาะที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ได้รับเงินค่าวางมัดจำจากผู้สั่ง จองพระบูชาแล้วเป็นเงิน ๓ แสนบาทเศษ และที่จังหวัดลำปาง ๔ หมื่นบาทเศษ
พตอ.นิรันดร กล่าวต่อไปว่า สำหรับอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรที่จะสร้างขึ้นนั้น คณะกรรมการมีความเห็นให้กำหนดสร้างขึ้นในท่าที่สมเด็จพระนเรศวรทรงยืนหลั่ง น้ำ สิโรทกในวันประกาศอิสรภาพของชาติไทย
ทั้งนี้ พตอ.นิรันดร ชี้แจงว่าโดยเหตุที่ทรงประกาศอิสรภาพนั้น สมเด็จพระนเรศวรทรงมีพระอารมณ์กริ้วและแสดงถึงความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว จึงสมควรจะสร้างในลักษณะท่ายืนมากกว่าที่จะนั่งหลั่งน้ำสิโรทก
ในการสร้างอนุสาวรีย์ ซึ่งทางกรมศิลปากรรับไปทำนั้น ทางกรมศิลปากรกำหนดเวลาสร้างไว้ ๑๒ เดือน จึงจะแล้วเสร็จ
"ผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวต่อไปอีกว่า เนื่องจากบริเวณที่จะสร้างพระสถูปนี้ต้องอาศัยเนื้อที่มากประมาณอย่างน้อย ๒๐ ไร่ เพราะเวลาจะประกอบพระราชพิธีจะมีประชาชนจำนวนมากไปร่วม และเวลานี้ได้มีผู้บริจาคที่ดินที่อยู่บริเวณใกล้เคียงสมทบให้อีก รวมกับที่มีอยู่เดิมแล้ว ขณะนี้มีเนื้อที่ ๑๐ ไร่เศษแล้ว
อนึ่ง ในวันที่ ๑๖ เดือนนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่จะได้เชิญคณะกรรมการและผู้เกี่ยวข้องไปร่วม ประชุมพิจารณาแบบอนุสาวรีย์และรายละเอียดอื่นๆ ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่เพื่อเสนอให้กรมศิลปากรทราบต่อไป."
การเตรียมการก่อสร้างอนุสาวรีย์และพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวร ณ บ้านเมืองงาย อ.เชียงดาว นั้น ขั้นตอนสำคัญ คือ การเดินทางไปบวงสรวงดวงพระวิญญาณที่จังหวัดพิษณุโลกของคณะกรรมการจังหวัด เชียงใหม่ ครั้งนั้นผู้ติดตามไปด้วย คือ คุณบุญเสริม สาตราภัย ได้บันทึกเป็นสกู๊ปข่าวในหนังสือพิมพ์คนเมือง ฉบับวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๑๑
"พิธีบวงสรวง ดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" โดยบุญเสริม สาตราภัย
"พิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งกระทำขึ้นที่ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช บริเวณโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม จังหวัดพิษณุโลกเมื่อเวลา ๙.๐๐ น. วันที่ ๕ กันยายน ศกนี้
พิธีนี้ จัดขึ้นตามโบราณราชประเพณี คณะกรรมการอำนวยการจัดสร้างพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชานุสรณ์ ที่บ้านเมืองงาย อ.เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พตอ.นิรันดร ชัยนาม ผวก.จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน
คณะกรรมการที่มาร่วมในพิธีมี นายพล จุฑางกูร ผวก.จังหวัดพิษณุโลก ในฐานะจังหวัดเจ้าภาพ มี พลโทอ่อง โพธิกนิฐ(ข้อความไม่ชัดเจน) แม่ทัพกองทัพภาคที่ ๓ พอ.แสง จุลละจาริตต์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย อัยการเขต ๖ พล.ต.ต.เนื่อง อาขุบุตร พล.ต.ต.ยรรยง สท้านไตรภาพ พอ.(พิเศษ)การุณ บุญบันดาล ผู้บังคับกรมผสมที่ ๗ พตอ.แม้น เพ็ญยโชติ นายชุ่ม บุญเรือง นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ และแขกผู้มีเกียรติอีกหลายท่าน ตลอดจนข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือนทั้งในจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมาก
พิธีเริ่มขึ้นด้วย พตอ.นิรันดร ชัยนาม ผวก.จังหวัดเชียงใหม่ จุดธูปบูชาเครื่องสังเวยบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นบุคคลแรก แล้วตามด้วยคณะกรรมการชั้นผู้ใหญ่ จากนั้น พระราชครูรามเทพมุนี ประธานพระครูพราหมณ์ ประกอบพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยอ่านโองการอัญเชิญพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรฯ ให้ทรงรับทราบถึงวัตถุประสงค์ของการจัดทำพิธีนี้ขึ้น
เมื่อเสร็จแล้ว พตอ.นิรันดร ชัยนาม พร้อมทั้งคณะกรรมการได้ขึ้นไปวางพวงมาลัยดอกไม้สดที่อนุสาวรีย์สมเด็จพระ นเรศวรฯ เป็นอันเสร็จพิธี"
ข้อมุลจาก : พ.ต.อ.อนุ เนินหาด ผกก.สภ.พร้าว
|