เหรียญโภคทรัพย์นับเป็นเหรียญรุ่นที่ 2ของครูบาขันแก้ว

จัดสร้างด้วยกันทั้งหมด 4 เนื้อ คือ

1. เนื้อเงิน สร้าง 19-20 เหรียญ (หายากสุดๆ ยังไม่เคยเห็นหลุดออกตลาดมาครับ ส่วนใหญ่อยู่กับ ศิษย์สมัยนั้น)

2. เนื้อ อัลปาก้า สร้าง 1,000 เหรียญ (พอเห็นบ้าง)

3. เนื้อ ทองแดงกะไหล่ทอง สร้าง 1,000 เหรียญ (พอเห็นบ้าง)

4. เนื้อ ทองแดงสร้าง 11,000 เหรียญ (เห็นบ่อย ราคาพอเก็บได้ แนะนำครับ เพราะเป็นเนื้อที่ผสมทองระฆังของหลวงพ่อพรหมด้วย)

มีทั้งตอกโค๊ดและไม่ตอกโค๊ดครับ ซึ่งสาเหตุมาจากการการจัดสร้างปั๊มพระเหรียญดำเนินการล่าช้า ใกล้ช่วงเข้าพรรษาคุณหมอสมสุขเป็นผู้ตอกโค๊ดเองทั้งหมดทำคนเดียวครับเลยไม่ทัน( เพราะมีโค๊ดแค่อันเดียว และตัวตอกโค๊ดก็ได้พังระหว่างการตอกเหรียญเลยไม่มีเวลาทำขึ้นมาใหม่)คุณหมอเลยนำพระทั้งหมดมาให้ครูบาขันแก้วปลุกเสกเลยครับ รูปแบบของเหรียญเป็นเหรียญกลมขนาดเดียวกับเหรียญโภคทรัพย์ครุบาชุ่ม(ครูบาขันแก้ว และครูบาชุ่มเป็นเพื่อนกันจากอดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ และคุณหมอสมสุขท่านก็รักครูบาชุ่มมากเช่นกัน)

- ข้างหน้าเป็นรูปครูบาขันแก้ว เขียนว่า "พระครูอุดมขันติธรรม

-ข้างหลัง เป็นถุงเงินวางเรียงกันถุงตรงกลางถุงเขียนว่า" อุดมโภคทรัพย์ "

- บนถุงเป็นตัวอักขระขอม อ่านว่า พุทโธ

-ใต้ถุงเงินเขียนว่า ร.พ.ก.(รัศมีพรหมโพธิโก)

- และด้านหลังขอบเหรียญด้านบนเขียนว่า " ขยันทำมาหากิน"

-ใต้เหรียญเขียนว่า วัดสันพระเจ้าแดง จ. ลำพูน

***ครูบาขันแก้ว และคุณหมอสมสุขท่าน เห็นพ้องต้องกันว่าถ้ามีเหรียญโภคทรัพย์แต่ งอมืองอเท้าไม่ขยัน รอแต่โชควาสนา มีเหรียญนี้ก็ไม่มีความหมาย  เหรียญโภคทรัพย์นี้ท่านให้ระลึกสติว่า จงขยันทำมาหากินในทางสุจริตและอดทน พุทธคุณของเหรียญที่ครูบาขันแก้วปลุกเสกจะช่วยให้คนที่ขยันตั้งใจทำงานเป็นคนมีโชคลาภดังที่ผู้ที่บูชาตั้งใจไว้****

เนื้อทองแดงกะไหล่ และเนื้อทองแดงคุณหมอสมสุขท่าน ได้ผสมทองระฆังหลวงพ่อพรหมเข้าไปด้วยเพื่อไม่ให้สีของเหรียญดูแข็งกระด้างจนเกินไป ปรกอบกับพุทธคุณแฝงที่หลวงพ่อพรหมท่านกล่าวว่า "เนื้อทองระฆังหรือเนื้อสำริดนี้ใครมีหรือได้บูชา จะทำการงาน หรือคิดสิ่งใดก็ จะสัมฤทธิ์ผล"   ออกให้ทำบุญครั้งแรกในปี 2521 เพื่อเป็นของที่ระลึกในการร่วมทำบุญทอดผ้ากฐินของวัดสันพระเจ้าแดงครั้งแรกของครูบาขันแก้วท่านอีกด้วย

        วัตถุมงคลในปีนี้มีหลายรายการ(จะนำเสนอภายหลัง)รวมทั้งเหรียญโภคทรัพย์นี้ด้วย การปลุกเสกของครูบาขันแก้วท่านเรียกพระ เณร ชุดเดิมที่สวดเจริญพุทธมนต์เหรียญรุ่นแรกของท่าน ท่านทำการปลุกเสกแบบเต็มรูปแบบ เมี่อวันที่ 21 ตุลาคม 2521 พิธีเริ่มเวลา 19.45 น.- 20.15 น.

         ก่อนที่จะนำมาเข้าพิธีปลุกเสกนี้ครูบาขันแก้วท่านปลุกเสกเดี่ยวมาก่อนแล้วประมาณเกือบ 3เดือน ในขณะที่ท่านทำพิธีพุทธาภิเษกอยู่นั้นมีพระภิกษุ 2ท่านนั่งประพรหมน้ำพระพุทธมนต์ตลอดเวลา ที่ตรงกลางบริเวณจัดพิธีนั้นทางวัดได้ติดหลอดไฟฟ้าไว้ เพื่อให้มีแสวงเพียงพอในงาน หลอดไฟแบบนี้ ตามบ้านนอกเขาใช้ติดบนเวทีรำวงกันเพราะทนแดดทนฝนไม่แตกง่ายๆ

        เมื่อพิธีสวดพุทธภิเษกจบ ครูบาขันแก้วท่านก็ได้หยิบหญ้าคาขึ้นมาประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่วัตถุมงคลกองอยู่ ในเสี้ยววินาทีที่ครูบาท่านเหลือบมองผ่านหลอดไฟดังกล่าว หลอดไฟได้เกิดแตกระเบิดดังเปรี้ยง โดยไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

       วันรุ่งขึ้นพวกที่ช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดบริเวณพิธีก็เก็บเศษแก้วของหลอดไฟได้กองใหญ่ การที่หลอดไฟแตกนั้นตอนแรกก็ไม่มีใครคิดเฉลียวใจเพราะต่างนึกไปว่าหลอดไฟคงร้อน จนกระทั่งมีผู้รู้แย้งขึ้นมาว่า หลอดไฟฟ้าชนิดนี้พวกรำวงบ้านนอกนิยมใช้แขวนบนเวที เพราะโดนฝนโดนแดดอย่างไรไม่มีทางแตกง่ายๆ และยากต่อการช็อตอีกด้วย จะเป็นไปได้ไหมที่สายตาของครูบาท่านมองผ่านแล้วจิตตานุภาพระหว่างการปลุกเสกที่แผ่ออกมาอย่างเหลือล้นกระทบกับหลอดไฟเข้าจึงทำให้หลอดไฟระเบิด มีคนเข้าไปถามครูบา ท่านก็ยิ้มไม่ตอบครับ

นี่และครับเหรียญโภคทรัพย์ ครูบาขันแก้ว และวัตถุมงคลที่เข้ารับการปลุกเสกแบบลืมตาจากพระอริยะเจ้า  เคยมีคนมาขอบูชาเหรียญโภคทรัพย์หลวงพ่อพรหมจากคุณหมอสมสุขท่าน แต่ท่านก็หยิบเหรียญโภคทรัพย์ครูบาขันแก้วให้ว่า บูชาของครูบาขันแก้วท่าน ก็เหมือนกับบูชาของหลวงพ่อพรหม นั่นแหละไม่ต่างกันครับ แต่ขอให้ขยันทำมาหากิน ดั่งที่เหรียญครูบาท่านเขียนไว้จะรวยเอง