ประวัติย่อ ครูบาอ้าย อินทปัญญา แห่งวัดสะปุ๋งน้อย  อ.ป่าซาง  จ.ลำพูน

       ครูบาอ้ายชื่อเดิมคือ  อ้าย เสนป่าหมุ้น เกิดปี พ.ศ. 2434 เป็นบุตรของ พ่อสม แม่ดา เสนป่าหมุ้น บ้านสะปุ๋ง หมู่ 3 ต.ม่วงน้อย แขวงปากบ่อง(อ.ป่าซางปัจจุบัน) จ.ลำพูน  ท่านครูบาอ้ายบวชเป็น สามเณรเมื่อ พ.ศ. 2449 โดยมีท่านครูบาอุปละ เป็นผู้บรรพชา  และท่านครูบาอ้าย ได้บวชเป็นภิกษุ เมื่ออายุ 21 ปี ในวันที่  16  มิถุนายน พ.ศ.2454 ณ.วัดป่าตาล ต.ม่วงน้อย โดยท่านครูบา ธรรมวงค์ วัดสันกำแพงเป็นพระอุปัชฌาย์  ได้นามฉายาว่า  “อินทปัญโญ ภิกขุ” หลังจากนั้นท่านก็หมั่นศึกษา ในทุกด้าน ทั้งวิชาเวทมนต์คาถาและวิชาโหราศาสตร์ จากหลายสำนักครูบาอาจารย์  ท่านครูบาอ้ายสร้างคุณงามความดี ทั้งทางโลกและทางธรรม  เมื่อวันที่  23  มกราคม พ.ศ.2493 ได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์เป็น “พระครูอ้าย อินทปัญโญ” และท่านเสียชีวิตเมื่อตี 5.39 น.ของ วันที่8 กันยายน พ.ศ.2505

โลงเก็บศพเกิดอภินิหาร

       หลังจากเก็บศพท่านครูบาอ้าย ไว้ได้ประมาณ 1 เดือนคณะกรรมการและศิษย์ยานุศิษย์ อันมีเจ้าอธิการพรหม พรหมบุญโญเป็นประธานเปลี่ยนขี้เถ้า (ฟาง)ศพ ขณะที่ทำการเปิดฝาโลง ทุกคนต้องตกตลึง เพราะที่บนขี้เถ้าตรงหน้าอกของท่านครูบามีก้อนขาวๆขนาดกำมือใหญ่ๆ คล้ายๆกับปะการัง ทุกคนลงความเห็นว่าเป็น “พระธาตุดิบของท่าน” (ดิบ คือยังไม่ได้เผา) ทำให้ข่าวนี้แพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาทางคณะกรรมการได้นำพระธาตุไปให้ครูบาพรหมา วัดพระบาทตากผ้าพิจารณา ท่านบอกกับคณะกรรมการว่า เป็นสิ่งน่าอัศจรรย์เป็นของวิเศษให้เก็บไว้ดีๆ อย่าเอาไปเผา เวลานี้คณะศรัทธาเก็บรักษาโดยบรรจุไว้ในรูปหล่อเหมือนของท่านครูบาฯ

อัฐิกลายเป็นพระธาตุ

วันที่ 12 เม.ย.พ.ศ.2506 ตรงกับเดือน 5 เหนือแรม 3 ค่ำ เป็นวันงานทำบุญฌาปนกิจศพ  ครูบาอ้าย ณ เมรุหน้าวัดสะปุ๋งน้อย ต.ม่วงน้อย อ.ป่าซาง จ.ลำพูน เปิดให้มีการทำบุญ 3 วัน 3 คืน มีประชาชนหลั่งไหลกันมาทั่วทุกสารทิศ หลังจากเผาเสร็จตอนใกล้รุ่งประมาณเวลา ตี 4-5 มีคนเห็นแสงประหลาดพุ่งขึ้นๆ ลงๆเป็นเวลานานพอสมควร ตรงที่เผาศพของท่านครูบา พอรุ่งขึ้นพระอธิการพรหม พรหมบุญโญ ทราบเรื่องจึงบอกว่าอาจจะเป็นพระธาตุ ของท่านครูบาให้พวกเราเฝ้าดูกันต่อไป เพราะตอนนี้ไฟยังร้อนอยู่ ต่อมาอีก 7 วันซึ่งตรงกับงานสรงน้ำ ครูบาคางเป็ดวัดฉางข้าวน้อยป่ายาง ขณะนั้นเวลาประมาณ 3-4 ทุ่ม มีคนเป็นจำนวนมาก ต่างก็เห็นพร้อมกันและตกตลึงไปตามๆ กัน เมื่อเห็นแสงไฟประหลาดขึ้นๆ ลงๆ เมื่อได้สติทุกคนต่างยกมือพนมเหนือหัวพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า  “สาธุ” พระธาตุครูบาออก นับว่าเป็นบุญของหมู่เฮาแต้ๆ  พอรุ่งขึ้นข่าวเรื่องพระธาตุของครูบาอ้ายก็ดังไปทั่ว  เจ้าอธิการพรหม เป็นประธาน พ่ออุ้ยหมวก ทาแก้ว เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์  ได้ช่วยกันทำการ (ตาว)  คือร่อนหาพระธาตุของครูบา ปรากฏว่าได้เป็นเม็ด กลมๆ ขนาดเม็ดข้าวสาลี มีอยู่เม็ดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าเม็ดอื่นๆ มีขนาดเท่าปลายนิ้วมือ และมีกะโหลกหน้าติดอยู่ยาวประมาณ    1 นิ้ว มีสีสองสีหลักคือ สีขาว และสีเขียวมรกต รวมแล้วมีอยู่ 35 ดวงหลายหลากโทนสี เมื่อชาวบ้านนำน้ำขมิ้นส้มป่อยมาสรงพระธาตุ พอพระธาตุถูกน้ำก็มีสวยงามตายิ่งนัก ข่าวการได้พระธาตุของครูบาอ้าย แพร่ไปทุกสารทิศประชาชนต่างหลั่งไหลกันมาเคารพบูชามิได้ขาดทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ โดยเฉพาะฝูงบิน 41 เชียงใหม่ก็ได้มาบูชากราบไหว้ เวลานี้พระธาตุได้เก็บไว้สักการะบูชาประจำทุกๆปี  บรรจุผอบไว้ที่  วัดสะปุ๋งน้อย   ต.ม่วงน้อย อ.ป่าซาง จ. ลำพูน

แบ่งอัฐิธาตุไว้ 3 แห่ง

         1.  บรรจุไว้ที่วัดพระพุทธบาทตากผ้า  จ.ลำพูน

         2.  ท่านอาจารย์สาธิต พระโขนง กรุงเทพฯ

         3.  วัดสะปุ๋งน้อย  จ.ลำพูน   สำหรับที่วัดสะปุ๋งน้อยคณะศรัทธาจัดให้มีงานสรงน้ำเป็นประจำทุกปี ในเดือน 9 เหนือขึ้น 8 ค่ำวันดีคืนดีจะมีชาวบ้านเห็นพระธาตุของครูบาอ้าย ปรากฏแสงเหมือนดาวลูกไก่จะระยิบระยับ ผ่านยอดไม้ แต่เป็นที่หน้าแปลกถ้าเป็นในช่วงพรรษาจะไม่มีปรากฏการให้ใครได้เห็นเลย

เหรียญครูบาอ้ายช่วยคนรอดตายจากปืน

         คณะกรรมการวัดสะปุ๋งน้อย  ได้จัดสร้างเหรียญครูบาอ้ายรุ่นแรกในปี 2521 ทำการปลุกเสกที่วัดสะปุ๋ง จำนวนไม่มาก  ชาวบ้านที่มีไว้ต่างหวงแหนกันมาก ที่มีเอาไปขายกันก็เป็นลูกหลานที่ไม่รู้แอบเอาออกไปขายกันโดยผู้ใหญ่ไม่รู้  ตัวอย่างความศักดิ์สิทธิ์  สมัยก่อนดังมาก เป็นข่าวดังในหนังสือพิมพ์  ชาวบ้านคนหนึ่ง (ถ้าข้อมูลไม่คลาดเคลื่อนคือคนบ้าน สบทา อ.ป่าซาง จ.ลำพูน )  เมื่อหลายสิบปีมาแล้วถูกปืนยิงหลายนัด ตามตัวมีแต่รอยแผล จ้ำๆ นิดหน่อย  และที่เหรียญครูบาอ้ายด้านหลังของเหรียญเป็นยันต์ของครูบาคางเป็ด “เป็นคาถาอิติปิโสตั๋น”หรือหัวใจอิติปิโส

  เหรียญครูบาอ้าย วัดสะปุ๋งน้อย รุ่นแรก ปี2521

รายละเอียด : 

 เหรียญครูบาอ้าย วัดสะปุ๋ง เหรียญรุ่นนี้ครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้าเป็นผู้ดำริให้จัดสร้างเมื่อชาวบ้านวัดสะปุ๋งได้ขอความคิดเห็น เนื่องได้รำลึกคุณของอริยะเจ้าที่อัฐิของท่านกลายเป็นธาตุและจุดประสงค์อีกอย่างคือจะได้นำปัจจัยในการออกเหรียญครั้งนี้ไปสร้างหอสรงน้ำรูปเหมือนครูบาอ้าย อินทปัญโญ เหรียญรุ่นแรกนี้ได้จัดสร้าง 5,000 เหรียญเท่านั้นเป็นเนื้อทองแดงอย่างเดียว โดยได้มอบให้อธิการ จินดาจิตตธัมโมและคุณสนิท  ทาแก้ว เป็นผู้ดำเนินการสร้าง โดยได้จัดทำแม่พิมพ์เหรียญที่ กทม. และนำเหรียญมาเข้าพิธีปลุกเสก ณ วิหารวัดสะปุ๋งน้อย โดยทำตามแบบประเพณีดั้งเดิมทุกประการ ซึ่งได้นำสายสิญธ์จากพิธีโยงไปยังบ้านของชาวบ้านทุกหลังคาเรือน รวมเกือบ  450  หลังคาเรือน ในสมัยนั้น   การพิธีพุทธาภิเศกได้มีพระคณาจารย์ทั้งหมด 9 รูป  อาทิเช่น ครูบาพรมาจักรสังวร(ครูบาพรหมา) แห่งวัดพระพุทธบาทตากผ้า เป็นเจ้าพิธี ครูบาจ๋อน จันทรังสี วัดป่าตาล  ครูบาซอน วัดบ้านดอนหลวง ครูบาบุญนิล วัดบ้านไร่ ครูบาศรีไวย วัดหหนองเงือก เป็นต้น โดยได้เริ่มพิธีปลุกเสก เวลา 18.00 น.ของวันพิธีและเสร็จสิ้นในเช้าวันรุ่งขึ้นของอีกวันหนึ่ง ออกให้บูชาองค์ละ 10 บาทในสมัยนั้น  ลักษณะเหรียญเป็นเหรียญรูปไข่ด้านหน้าเป็นรูปครูบาอ้าย ขอบเหรียญด้านบนเขียนว่าครูบาอ้าย อินทปัญโญ วัดสะปุ๋งน้อย อ.ป่าซาง อายุ 72 ปี ส่วนด้านหลังเหรียญตรงกลางเป็นรูปหอสรงน้ำมีอุณาโลมตรงกลาง ขอบด้านบนเป็นอักขระยันต์ ตัวล้านนาว่า   อิ ภะ อะ สะ วิ สุ กะ อะ สุ ปุ   เป็นหัวใจอิติปิโส   ด้านล่างบอก ปีพ.ศ. 2521 ข้อสังเกตเหรียญครูบาอ้าย อินทปัญโญ เหรียญรุ่นแรกด้านหน้าเหรียญคมชัด มีเส้นขนแมว เส้นแตกด้านบนเหรียญ  ส่วนด้านหลังพื้นผิวเรียบไม่มีขี้กลาก ส่วนที่หอสรงน้ำมีผ้าม่านติดคมชัด อ่อนพริ้ว  ด้านข้างรอยตัดขอบเหรียญชัดเจน ( ซึ่งปัจจุบันมีการทำเสริมขึ้นลักษณะเหรียญจะเป็นกลากและตัวหนังสือตื้น รูปหน้าไม่คมชัด )