พระกรุทั่วไป
๛.>>พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่(Pra Somdej Wat BANGKHUNPROM Pim Yai)๛.>>>
(ปิดการประมูลแล้ว)
|
|
ชื่อพระ :
๛.>>พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่(Pra Somdej Wat BANGKHUNPROM Pim Yai)๛.>>>
รายละเอียด :
จักรพรรดิ์เเห่งพระเครื่อง@เอกองค์สมเด็จสร้อย พุฒ_จารย์เนอ สารพัดกิตติคุณ_ กฏถ้วน มหาอุตม์,...เวช,...เมตตา คลาคลาด คงเฮย เรื่องเดชภิญโญล้วน เลิศชั้นเอกศิขร~~~~~@ @@@พระสมเด็จฯเป็นพระเครื่องฯที่สร้างขึ้นด้วยผงวิเศษทั้งห้า@@@ อันให้คุณวิเศษต่างๆกัน เเละความศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์ของพระสมเด็จฯ นั้นส่วนใหญ่ย่อมเกิดจากผงวิเศษเหล่านี้คือ:- 1.ผงอิธเจ ให้คุณวิเศษในด้านเมตตามานิยมอย่างสูง เเละบรรดาลให้เกิด สิริมงคลลาภผล เเละ ความมีราศรี 2.ผงปถมัง ให้คุณวิเศษในด้านคงกระพัน, ชาตรี, จังงัง, ล่องหน, ป้องกัน, กำจัดภูตผีปีศาจ เเละ การกระทำย่ำยีด้วยคุณไสย์ เเละ เมตตามหานิยม ด้วย 3ผงมหาราช บรรดาลผลในด้าน เมตตามหานิยม, คงกระพัน, ชาตรี, จังงัง, กำบัง, อิทธิตบะเดชะ 4ผงพุทธคุณ อุปการะในด้านเมตตามหานิยมอย่างสูง, สง่าราศรี, ลาภผล เเละเเค้ลวคลาด 5ผงตรีนิสิงเห ใหคุณในด้านเมตตามหานิยม, เเคล้วคลาด, คงกระพัน, ชาตรี, ปกป้องเเละถ่ายถอนอำนาจคุณไสย์ เเละ ประสะน้ำมนต์เสดาะเคราะห์ ถอนอาถรรพณ์ เเละเสนียดจัญไรทั้งปวง (เบญจภาคีศรีวาทเเละผงวิเศษ ๕ ประการ.โดยท่าน..ตรียัมปวาย)แม่พิมพ์พระสมเด็จ คือรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าทรงเลขาคณิต นี้ชึ่งเชื่อว่ามีการสร้างเป็นสัญลักษณ์ความศักดิ์ตั้งเเต่สมัยกรีกเลยทีเดียว ("กรีก ออปลง/Greek Oblong/เป็นศิลปะเหลี่ยมลูกบาศก์(Cubism)ของชนชาติกรีกโบราณ ศิลปะกรีก 500 ปีก่อน พ.ศ. - พ.ศ. 440 ชาวกรีกมีความเชื่อว่า "มนุษย์เป็นมาตรวัดสรรพสิ่ง" พระสมเด็จมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนสูงจนถูกเรียกว่าเป็นจักรพรรดิ์เเห่งพระเครื่องฯที่ทรงกิตติศัพท์เลื่องระบือในคุณวิเศษอย่างรอบด้านอย่าง เเท้จริงที่สุดในบรรดาพระเครื่องฯทั้งหลาย การสร้างพระสมเด็จวัดบางขุนพรหมสร้างขึ้นเมื่อประมานปี 2411เเละถูกนำไปบรรจุกรุไว้ในเจดีย์องค์ประธานประมานในราวปีพ.ศ.2413พระสมเด็จวัดบางขุนพรหมที่ถูกขุดเจาะเจดีย์ไปก่อนหลายครั้งรวมทั้งใช้วิรีตกด้วยนั้นเรียกว่าพระกรุเก่ามีพระสมเด็จวัดระฆังเเละพระสมเด็จวัดเกศไชโยรวมอยู่ด้วยจำนวนหนึ่งจะเรียกว่าพระฝากกรุส่วนพระที่เปิดกรุอย่างเป็นทางการเมื่อปีพ.ศ.2500เรียกว่าพระกรุใหม่*****( บทความพิเศษเพื่อประกอบพิจารณาเชิงเปรียบเทียบ___ ###กรุเจดีย์เล็ก/บางขุนพรหม ###เมื่อปี พ.ศ.2500 พระครูอมรคณาจารย์ (เส็ง) เจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส ได้ประกอบพิธีเปิดกรุเจดีย์องค์ใหญ่ เพื่อนำ พระสมเด็จ ที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ปลุกเสก ออกมาให้ประชาชนเช่าบูชา เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีคนร้ายไปแอบขุดเจาะเจดีย์ใหญ่องค์นี้เพื่อขโมยพระสมเด็จอยู่เป็นประจำ จากการที่ได้นำ พระสมเด็จ ให้ประชาชนเช่าบูชา ทำให้ทางวัดมีรายได้ขึ้นมาจำนวนหนึ่งจึงได้นำมาบูรณะปฏิสังขรณ์บริเวณวัด เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๘ โดยได้ว่าจ้างให้ช่างรับเหมา มาปรับปรุงบริเวณรอบองค์เจดีย์ใหญ่ซึ่งมี เจดีย์เล็ก เรียงรายรอบทั้ง ๔ ทิศของเจดีย์องค์ใหญ่ ทิศละ ๒ องค์ ตั้งซ้อนกันอยู่อย่างเป็นระเบียบรวมทั้งหมด ๘ องค์ ซึ่งทางช่างได้รื้อ เจดีย์เล็ก ทั้งหมดออก ทำให้ช่างรับเหมาพบ กรุพระเครื่องจำนวนหนึ่งในเจดีย์เล็กรวมอยู่กับอัฐิ จึงได้เก็บพระเครื่องซ่อนไว้ไม่ให้ทางวัดทราบ คงมอบแต่อัฐิให้เท่านั้น ต่อมาช่างรับเหมาได้นำพระที่พบนี้ไปขายแก่เซียนพระคนหนึ่งในสนามพระ ทำให้ พระเครื่องกรุเจดีย์เล็ก เป็นที่รู้จักในวงการพระสมัยนั้น พระที่พบมีเนื้อหาคล้ายกับพระสมเด็จฯ ที่อยู่ในองค์พระเจดีย์ประธานมากแต่มีพิมพ์ที่แตกต่างกัน เรื่องของอายุความเก่านั้นก็ไล่เลี่ยกันมาก สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างห่างกันไม่นาน ในการตรวจสอบประวัติซึ่งเชื่อว่าผู้สร้าง พระกรุเจดีย์เล็ก ก็คือ "เสมียนตราด้วง" ต้นสกุล "ธนโกเศศ" ผู้สร้างพระเครื่องชุดนี้ไว้เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา เสมียนตราด้วงจึงได้นำพระเครื่องในส่วนนี้ไปบรรจุไว้คู่กับอัฐิของบรรพชนในตระกูล และเมื่อช่างรื้อเจดีย์เล็กออกจึงพบอัฐิและพระเครื่องดังกล่าว พระเครื่องกรุเจดีย์องค์เล็ก มีทั้งหมด ๖ พิมพ์ คือ พิมพ์ฐานคู่ พิมพ์ฐานหมอน พิมพ์สามเหลี่ยม พิมพ์ไสยาสน์ พิมพ์ยืนประทานพร พิมพ์จันทร์ลอย พระทุกองค์มีคราบกรุเกาะอยู่ด้วย มากบ้างน้อยบ้าง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของพระกรุนี้ เรื่องประวัติการสร้างของพระสมเด็จกรุเจดีย์เล็กนี้ยังไม่ชัดเจนว่า สร้างทันเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒา จารย์โตหรือไม่ เนื่องจากหลังจากสร้างพระเจดีย์องค์ประธานเสร็จ เจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านก็เริ่มอาพาธ และสิ้นในปี พ.ศ. 2415 แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากศิลปะแม่พิมพ์มีศิลปะที่คล้ายคลึงกันมาก จึงเป็นไปได้ว่าเป็นฝีมือแกะแม่พิมพ์จากช่างกลุ่มเดียวกัน และเนื้อหาก็คล้ายคลึงกัน ดังนั้น จึงน่าเชื่อได้ว่า เนื้อหาของพระกรุเจดีย์เล็ก ถ้าแม้ว่าการสร้างอาจจะสร้างหลังจากที่เจ้าประคุณสมเด็จฯ สิ้นแล้วก็ตาม แต่น่าจะมีส่วนผสมของผงวิเศษ ที่เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ทำไว้ในคราวสร้างพระบรรจุในพระเจดีย์ใหญ่บ้างไม่มากก็น้อย ###พระสมเด็จ วัดระฆังโฆสิตาราม###ในท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯนั้น เป็นเป็นพระเครื่องที่สร้างแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามแต่โอกาสและเวลาจะอำนวย หาได้สร้างเป็นครั้งเดียวไม่ ที่เป็นเช่นนี้เพราะพระแต่ละพิมพ์ของท่าน เนื้อหา ตลอดจนมวลสารนั้นมีอ่อนแก่กว่ากัน เเละความหนาบางขององค์พระ เนื้อละเอียดบ้าง หยาบบ้าง ตลอดถึงสีสันวรรณะก็เป็น เช่น นี้ทั้งสิ้น เมื่อท่านสร้างพระแต่ละพิมพ์แต่ละคราวเสร็จแล้ว ท่านจะบรรจุลงในบาตร นอกจากท่านจะบริกรรมปลุกเสกด้วยตัวท่านให้ดีแล้ว ยังนิมนต์ให้พระเณรปลุกเสกอีกด้วย เมื่อท่านออกไปบิณฑบาตท่านก็จะเอาติดตัวไป ญาติโยมที่ใส่บาตรท่าน ท่านจะแจกพระให้คนละองค์ และมักจะพูดว่า เก็บเอาไว้ให้ดีนะ ต่อไปจะหายาก โดยไม่บรรยายสรรพคุณให้ทราบแต่อย่างใด แต่ก็เป็นที่ทราบกันอยู่ในยุคสมัยนั้นแล้วว่า พระสมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ นั้นพุทธคุณรอบด้านครอบจักรวาลจริงๆ การสร้างพระเครื่องไว้เพื่อสืบทอดอายุของพระพุทธศาสนานั้น ได้มีมาตั้งแต่สมัยทวารวดี ราวปีพุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๓ ต่อมาท่านโบราณจารย์ก็ได้ประดิษฐ์คิดสร้างพระเครื่อง ด้วยรูปแบบต่างๆนานาตามแต่จะเห็นว่าดีสมควร การสร้างพระเครื่องนั้น นิยมสร้างให้มีจำนวนครบ ๘๔,๐๐๐ องค์ ตามจำนวนพระธรรมขันธ์ทางพระพุทธศาสนา ในประเทศไทยเราเอง ปรากฏว่ามีพระเครื่องอย่างมากมาย เพราะท่านพุทธศาสนิกชนได้สร้างสืบต่อกันมาทุกยุคทุกสมัยทุกช่วงอายุของคน และในบรรดาพระเครื่องจำนวนมากด้วยกันแล้ว ท่านยกย่องให้พระสมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม ซึ่งเป็นพระเครื่องที่สร้างโดยท่านเจ้าประคุณพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี นั้น เป็นยอดแห่งพระเครื่อง ส่วนเทคนิคเเละวิธีการสร้างที่ทราบๆ กันดีอยู่เเล้วอย่างเด่นชัดคือ ตัวประสาน หรือตัวยึดเกาะของพระสมเด็จนั้นได้เเก่ น้ำมันตังอิ๊ว น้ำอ้อย น้ำผึ้ง กล้วย และที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ **เยื่อกระดาษ** ได้จากการที่เอากระดาษฟางหรือกระดาษสามาแช่น้ำข้ามวันข้ามคืน จนกระดาษละลายเป็นเมือกดีแล้ว จึงนำเอามากรองเพื่อเอาเยื่อกระดาษมาผสมผสานบดตำลงไป เชื่อกันว่าตัวเยื่อกระดาษนี้ เป็นตัวหนึ่งที่ทำให้พระสมเด็จวัดระฆัง มีความหนึกนุ่ม เนื้อจึงไม่แห้งและกระด้าง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่วนผสมที่เป็นประเภทพืช เช่น ข้าว อาหาร กล้วย อ้อย เป็นต้น ก็มีส่วนที่ทำให้เนื้อพระมีความหนึกนุ่มอีกเช่นกัน ) |
ราคาเปิดประมูล :
10000 บาท
ราคาสูงสุด ขณะนี้ :
10000 บาท
ราคาที่ต้องเพิ่มขึ้น ขั้นต่ำ :
1000 บาท
ผู้ตั้งประมูล :
ดวงติ๊บ ขยัน
ที่อยู่ :
20/3 ม.10 ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ไทย
เบอร์โทรติดต่อ :
0861840921, 0861840921
E-mail :
denlanna@hotmail.com
ชื่อบัญชี :
นาย ดวงติ๊บ ขยัน
เลขที่ บัญชี :
4590362127
ธนาคาร :
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
วันที่ :
Wed 5, Jan 2011 21:45:47
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|