พระอุปคุต ล้วงบาตร เนื้อสัมฤทธิ์ ปัดทอง ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี พศ 2552
วัตถุมงคลรุ่นนี้ ประกอบด้วย พระอุปคุตทวีทรัพย์, ล็อกเก็ตฉากทอง ๑๐๔ ปี หลวงปู่ครูบาเจ้าดวงดี, กุมารเทพดวงดี, ตะกรุดนาคบาศ (หนังงูเหลือมจารมือ), สีผึ้งอิ่นแก้วมหาเสน่ห์ และผ้ายันต์ดวงดีทวีทรัพย์ พิธี พุทธาภิเษก ๒ วาระ ในวันอันเป็นวันมหามงคล ที่นานปีมีหนเดียว คือ วันยี่เป็ง คืนพระจันทร์ซ้อนพระจันทร์ เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ณ วิหารวัดท่าจำปี วันดังกล่าว ถือเป็นมหามงคลสุดยอดในเรื่องของเมตตามหานิยม เพราะในวาระ ๑๒ ปี จะมีขึ้นเพียงครั้งเดียว พิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ ๒ เรียกว่า วันเป็งปุ๊ด ตรงกับวันพุธที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๒ ซึ่งตรงกับวันเพ็ญ เชื่อกันว่า ในวันเพ็ญที่ตรงวันพุธ (วัน เพ็ญพุธ) พระอุปคุตมหาเถระ ซึ่งเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงฤทธิ์ และอภิญญา ชอบสันโดษ ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอยู่ ณ สะดือทะเล ท่านจะออกจากนิโรธกรรม ในเวลาเที่ยงคืน จึงได้ถือฤกษ์ดีนี้ประกอบพิธี ณ มณฑลพิธีเจดีย์พระธาตุ ๙ ยอด โดยมีพระเกจิอาจารย์ล้านนา ๑๒ รูป นั่งปรกปลุกเสก อาทิ หลวงปู่ครูบาดวงดี ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล ครูบาจันทะรังษี วัดกู่เต้า ครูบาจันทร์แก้ว วัดศรีสว่าง หลวงปู่ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง ครูบาอุ่น วัดโรงวัว ฯลฯ / พระมีตอกโค๊ต ประวัติ ....นบางท้องถิ่นล้านนา เชื่อว่า พระอุปคุตจะตะแหลง (แปลงร่าง) เป็น สามเณรน้อย ขึ้นมาบิณฑบาตใน วันเป็งปุ๊ด หรือ เพ็ญพุธ (วันเพ็ญที่ตรงกับวันพุธพอดี) เริ่มตั้งแต่ตีหนึ่งของวันพุธ ผู้คนจึงมักเห็นสามเณรน้อยเดินบิณฑบาตไปตามถนน ทางสี่แพร่งสามแพร่ง ตลอดจนถนนหนทางตามริมน้ำท่าน้ำต่างๆ จนกระทั่ง ตี๋นฟ้ายก หรือแสงเงินแสงทองออกมา จึงเนรมิตกายหายไป เชื่อกันว่า หากผู้ใดมีบุญบารมีได้ใส่บาตรพระอุปคุต มักทำให้ร่ำรวยเงินทอง ปราศจากภัยทั้งปวง มีสมาธิจิตดี ไม่หลงลืม ชีวิตเป็นสุข ด้วยเหตุนี้ จึงมีผู้สร้าง พระอุปคุต ปางต่างๆ ที่นิยมกันมากได้แก่ ปางล้วงบาตร หมายถึง กิ๋นบ่เสี้ยง หรือกินไม่หมด ให้คุณทางทรัพย์สินเนืองนอง มากมาย ร่ำรวย พระอุปคุต ปางห้ามมาร ให้คุณในทางคุ้มครองป้องกันภัยต่างๆ ปางสมาธิ หรือ พระบัวเข็ม ให้คุณในด้านสติปัญญาดี จิตใจผ่องใส ดำเนินชีวิตเป็นสุข ด้วยปัญญาบารมี ด้วยประวัติอันทรงฤทธิ์ดังกล่าว พุทธศาสนิกชนจึงสร้างรูปพระอุปคุตขึ้นบูชา โดยมีความเชื่อว่า จะสามารถปกป้องคุ้มครองภยันตรายต่างๆ อันอาจจะเกิดขึ้น ดังจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบัน เมื่อจะจัดงานพิธีสำคัญต่างๆ ขึ้น มักจะมี พิธีอธิษฐานบูชาพระอุปคุต เป็นเบื้องต้น เพื่อให้ช่วยคุ้มครองให้งานนั้นๆ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี รูปลักษณะของพระอุปคุต ที่เป็นรูปเคารพโดยทั่วไป มักทำเป็นรูปองค์พระนั่งอยู่ภายในหอยสังข์ มีขนาดศีรษะค่อนข้างใหญ่ เน้นส่วนคิ้ว ตา จมูกให้เห็นชัดเจน และเนื่องจากที่อาศัยจำพรรษาของพระอุปคุตอยู่ในปราสาทแก้วกลางมหาสมุทร จึงมักทำรูปสัตว์น้ำเป็นสัญลักษณ์ประกอบอยู่ด้วยเสมอ พระอุปคุตทวีทรัพย์ รุ่นดวงดีทวีทรัพย์ สัมฤทธิ์ชุบทอง ปี53 ครูบาเจ้าดวงดี สุภัทโท วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ ครูบาเจ้าดวงดี สุภัทโท ศิษย์รูปสุดท้ายครูบาเจ้าศรีวิชัย อายุวัฒนมงคล 104 ปี สงฆ์รัตตัญญูแห่งนครเชียงใหม่ หน่อเนื้อนาบุญผู้มีศีลาจริยวัตรงดงามยิ่ง วัตถุประสงค์ เพื่อสมสบทุนสร้างอาคารกุฏิรับรองสงฆ์ วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ และสมบททุนสร้างศาลาการเปรียญเอนกประสงค์ สำนักสงค์เขาสามล้าน จ.ชุมพร ครั้งแรกในประวัติศาสตร์พิธีกรรมวันมหามงคลศักดิ์สิทธิ์ พิธีเทวาภิเษก,พุทธาภิเษกวาระที่ 1 วันยี่เป็ง จันทร์ซ้อนจันทร์ 2 พฤศศจิกายน 2552 พิธีหุงสีผึ้งอิ่นแก้วมหาเสนห์ ณ วิหารวัดท่าจำปี พิธีมหาพุทธาภิเษกวาระที่ 2 วันเป็งปุ๊ด วันพุธที่ 2 ธันวาคม 2552 วันที่มหาเถระพระอุปคุตออกจากนิโรธกรรมใต้มหาสมุทร โดย 12 เกจิอาจารย์แห่งล้านนา ณ มณฑลพิธีมหาเจดีย์บรรจุพระธาตุ 9 ยอด วัดท่าจำปี พระอาจารย์สายกรรมฐาน และ พระเกจิอาจารย์ ร่วมปลุกเสกทั้งเทวาภิเษก และ พุทธาภิเษก อาทิ 1. หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี� 2. พ่อครูพราหมณ์ ป. เลี่ยมเพ็ชรรัตน� 3. พระอาจารย์ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง� 4. ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล� 5. หลวงปู่เณร คำภีโร� 6. ครูบาจันทรังษี วัดกู่เ้ต้า� 7. ครูบาสุบิน วัดทองสะอาดและอาจารย์ท่านอื่่นๆอีกมาย พระอุปคุต ผู้เป็นพระอรหันตสาวก ที่ทรงมหิทธานุภาพ ชอบความวิเวกวังเวง และอยู่ตามลำพังผู้เดียว ไม่ชอบเกี่ยวข้องกับผู้อื่น เป็นพระอรหันต์หลังสมัยพุทธกาล เพราะไม่พบประวัติของท่านในพระไตรปิฎก แต่ปรากฏอยู่ใน จารึกพระเจ้าอโศก ซึ่งเขียนขึ้น เมื่อร้อยกว่าปีหลังพุทธปรินิพพานและยังปรากฏอยู่ใน พระปฐมสมโพธิกถา ซึ่งเป็นพระนิพนธ์ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส โดยอยู่ปริจเฉทที่ ๒๘ ที่มีชื่อว่า มารพันธ-ปริวรรต ตามประวัติกล่าวว่า พระอุปคุต เกิดในตระกูลวานิช บิดาประกอบอาชีพค้าเครื่องหอม อยู่ที่เมืองมถุรา มีพี่น้องทั้งหมดรวมทั้งตัวท่านเองสามคนเดิมบิดาของท่านได้ให้คำสัญญากับ พระสาณวารี (สาณสัมภูติ) ไว้ว่า หากมีบุตรชายจะให้อุปสมบทในพุทธศาสนา แต่ก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา โดยอ้างว่า จะต้องเอาไว้ช่วยกิจการของครอบครัวจนกระทั่งมีบุตรคนที่สาม คือ ตัวท่าน ซึ่งได้มีโอกาสฟังพระธรรมจากพระสาณวารี จนเกิดดวงตาเห็นธรรม ประสงค์จะอุปสมบท บิดาท่านจึงต้องจำยอมอนุญาตเมื่อพระอุปคุตบวชแล้ว ก็ได้เจริญวิปัสสนาญาณโดยลำดับ จนบรรลุพระอรหันต์ผล และได้เป็นอาจารย์สั่งสอนทางสมถกัมมัฏฐาน และวิปัสสนากัมมัฏฐาน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด ในสมัยนั้น ดังปรากฏมี พระอรหันต์ที่เป็นศิษย์ของพระอุปคุตถึง 18,000 รูป นอกจากนี้แล้ว พระอุปคุตยังสำเร็จอภิญญาต่างๆ จนสามารถแสดงอภินิหาร เป็นที่เล่าลือมาจนทุกวันนี้ มีปฏิปทาดำเนินไปในทางสันโดษ มักน้อย นัยว่า ท่านเนรมิตเรือนแก้ว (กุฏิแก้ว) ขึ้นในท้องทะเลหลวง (สะดือทะเล) แล้วก็ลงไปอยู่ประจำที่กุฏิแก้วตลอดเวลา เมื่อมีเหตุเภทภัยเกิดขึ้นในพระศาสนา หรือเมื่อมีพิธีกรรมใหญ่ๆ หรือมีผู้นิมนต์ ท่านก็จะขึ้นมาช่วยเหลือ ด้วยความเต็มใจเสมอ คติความเชื่อเกี่ยวกับพุทธคุณ ของผู้ที่บูชา พระอุปคุต เชื่อว่า มีพุทธโดดเด่นด้านโชคลาภ และคุ้มกันภัยภิบัติอันตรายทั้งปวง วิธีบูชา ให้หาภาชนะใส่น้ำสะอาดไว้ให้เกือบ่ต็มภาชนะ แล้วนำอุปคุตไปตั้งคอยดูแลอย่าให้น้ำแห้ง จุดธูปอธิษฐาน ด้วยพระคาถาพระอุปคุต ตั้งนะโม 3 จบ มหาอุปคุตโต จะมหาเถโร นานาบารมี สัมปันโน มหาลาโภ มหาเตโช มหาชัยยะสิทธิ สัพพะสิทธิ ประสิทธิเม 3 จบ วิธีสวดขอลาภ ให้จุดธูปเทียนบูชา พร้อมกับดอกไม้หอม เครื่องหอม น้ำหอมต่างๆ เทหยดใส่ในขันน้ำมนต์ ณ ที่บูชาพระ ในร้านค้าขาย หรืออาคารสำนักงาน แล้วอธิษฐานขอให้กลิ่นควันธูปเทียน ลมพัดไป
|