ชื่อผลงาน    เบญจกัลยาณี
เทคนิค        สี Acrylic บนเฟรมผ้าใบ
ขนาดรูป      ๕๓.๓ x ๘๐.๕ เซนติเมตร      หรือ ๒๑ x ๓๑+.๕ นิ้ว

     ว่าด้วยความประทับใจในความงดงาม สิ่งที่ผมประทับใจที่สุด ณ ปัจจุบันนี้คือว่าด้วยความงดงามในพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะด้วยหลักคำสอนที่ปฏิบัติแล้วเห็นผลรู้ผลได้จริงตามประสบการณ์จริง ( ปัจจัตตัง คือ ประจักษ์รู้ได้ด้วยตนเอง ) สิ่งที่เข้าใจในส่วนหลักและใช้เป็นเครื่องมือดำเนินชีวิตไม่ให้ประมาทก็คือ หลักไตรลักษณ์ ทุกข์ขัง อนิจจัง อนัตตา สามหลักนี้ ณ ปัจจุบัน วิทยาการทางวิทยาศาสตร์อาจจะทราบแล้ว แต่จะฝืนนั้น ยังห่างไกลนัก ถึงจะสามารถคิดค้นสร้างวัตถุที่มีความยั่งยืนถาวรได้ แต่ เช่นทุกข์ขังจากการเกิด แก่ เจ็บ ตายของชีวิต ( พูดถึงเรื่องเกิดแก่เจ็บตาย เหมือนจะธรรมดาสำหรับบางคนที่ยังประมาทหลงลืมตัวแต่สำหรับผู้ที่กำลังประสบอยู่ ณ ปัจจุบันมันเป็นความรู้สึกที่กังวลและเป็นทุกข์อย่างยิ่ง ) ยังเป็นปัญหาของมนุษย์ทุกคนตั้งแต่บุคคลในประวัติศาสตร์อดีตไม่ว่ามีชื่อเสียงหรือไม่มีชื่อเสียง กลับไม่มีชีวิตยืนยาวมาจนถึงปัจจุบันซักคนเดียวมีเพียงแต่คุณงามความดี ความชั่ว เป็นรูป-นามธรรม ผ่านประวัติศาสตร์จารึกเท่านั่น เป็นต้น ลองคิดไปไกลอีกหน่อยใครที่คิดว่าชื่อเสียง ยังถาวรได้จริงๆ ก็ต้องไปดูกฏแห่งการเกิดดับแห่งระบบของจักรวาลด้วย ระบบสุริยะของโลกเรา ถ้าสูญสลายตามวัฏจักรแล้วจะยังเหลือชื่อเสียงอะไรให้ยั่งยืนถาวรอีก ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปตามหลักนี้หมดแน่นอน เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น
     ที่เท้าความมาทั้งหมดนี้เพื่ออะไร ก็เพื่อให้เรารู้บทบาทแห่งธรรมชาติที่เราประสบอยู่อย่างหาเท็จไม่ได้( เหมือนหลักการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ดีและไม่ดี เพื่อเดินทางสู่ความเจริญอย่างถูกต้อง) เพื่อจะให้เราจะสร้างบทบาทแห่งชีวิตที่สมบูรณ์งดงามงามขึ้นมาอย่างแท้จริง ให้รู้ว่าควรนำตนไปตนเองไปอยู่จุดไหน ทำอะไรไม่ให้หลงอยู่กับสิ่งไม่มีสาระเป็นโทษ และคิดว่าคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น เปิดเผย เป็นจริง ไม่ปิดกั้น ครอบโลกจักรวาลธาตุ สง่างาม งดงาม ที่สุดเท่าที่ได้เคยประสบพบมาในชีวิตอันสั้นนี้

    ความงามแบบเบญจกัลยาณีนั้น เบญจกัลยาณี (แปลว่า ผู้มีความงาม ๕ ประการ) หมายถึงสตรีผู้มีศุภลักษณ์     หรือลักษณะที่งาม ๕ ประการ คือ
๑. ผมงาม คือมีผมเหมือนหางนกยูง เมื่อสยายออกทิ้งตัวลงมาถึงชายผ้า
๒. เนื้องาม คือมีริมฝีปากแดงเหมือนลูกตำลึงสุก เรียบสนิทมิดชิดดี
๓. ฟันงาม คือขาวเหมือนสังข์และเรียบเสมอเหมือนเพชรเรียง
๔. ผิวงาม คือถ้าผิวดำก็ดำสม่ำเสมอเหมือนดอกอุบล ถ้าขาวก็ขาวเหมือนกลีบดอกกรรณิการ์
๕. วัยงาม คืองามทุกวัย แม้คลอดบุตรมาแล้ว ๑๐ ครั้งก็ยังดูสาวพริ้งอยู่

ความงามของสตรีเพศระดับนี้ จะต้องสร้างสรรค์ด้วยสิ่งใดหนอถึงจะได้มาซึ่งสิ่งนี้ แน่นอนบุคลคนนั้นต้องมีบุญญาธิการ แล้วจะได้บุญนั้นมาจากที่ไหน อย่างที่ท้าวความมาจากบทความหลักสัจธรรมข้างบน ว่าธรรมมะคือสิ่งที่ เปิดเผย เป็นจริง ไม่ปิดกั้น ครอบทุกสิ่งอย่างในจักรวาล สง่างามในความรู้จริง งดงามในจิตใจ ฉะนั้นภพชาติที่จิตไปจุติเป็นรูปจิต (จิตคือสภาวะรู้อารมณ์) ก็ต้องเลือกสิ่งแวดล้อม ชาติพันธุ์ ฐานะ ที่เหมาะสมในการฟูมฟักความงามขึ้น ซึ่งหลักการคุณแห่งธรรมข้างต้นจะเกาะเป็นธรรมชาติของจิตใจ ย่อมเป็นที่ต้องการ ตรึงตาตรึงใจในคนหมู่มากที่ได้เห็นอย่างแน่นอน  เหมือนเป็นผลพลอยได้ แต่ใช่ว่าจะเกิดกับทุกคน อันนั้นมันก็แล้วแต่ว่าใครจะต้องการปรารถนาสร้างบารมีตามเหตุปัจจัยจะแวะข้างทางให้ผู้คนได้ประจักษ์ประทับใจก็มีบางหมู่ชนที่เห็นแล้วอยากรูปสวยบ้างแล้วได้ยินหรือได้รู้จากคำสอน ก็ยิ่งอยากสร้างบุญ ทำกุศลเกิด พอได้สมประสงค์ในชาติใหม่ในอนาคต จิตมันไม่ลืมบุญที่สร้างมา จิตอาจจะเข้าใจความรู้สึกในความมีกายสวยว่าไม่พ้นไตรลักษณ์เกิดความเบื่อ  แต่จิตยังอาจอยากจะได้กุศลที่สูงๆประเสร็ฐกว่านี้ ( เข้าหลักการ“มนุษย์มีความต้องการไม่สิ้นสุด” แต่เป็นความอยากต้องการไปในทางบุญที่ก่อกุศล บุญก็จะนำสู่ธรรม หนึ่งในเครื่องมือเข้าสู้ธรรมก็คือบุญ พอคนเข้าถึงธรรม ๆ ก็จะวางบุญลงเพื่อเข้าสู่นิพพาน ) ถึงเวลานั้นอาจต่อบุญที่ทำ เพื่อเข้าสู่ทางสายหลักสายเดียว คือมรรคมีองค์ ๘  ก็ถึงที่สุดแห่งทุกข์ ฉะนั้นความสวยงามทางรูปมันก็ใช้เป็นกุศโลบายเข้าถึงประตูธรรมได้เหมือนกัน
    และเชื่อว่าผู้ที่จะเข้าใจและได้ครอบครองงานนี้ก็ย่อมเข้าใจธรรม เข้าใจคำว่าบุญเข้าใจสร้างบุญเป็นนิจ ซึ่งก็ต้องมีความมั่นคงในสิ่งแวดล้อม กัลยาณมิตรชาติพันธุ์ จิตปัญญาสมบูรณ์ อุปนิสัยเป็นที่ดึงดูดใจของผู้คนให้เข้ามาประสบมิตร ไม่วันนี้ก็อนาคต และสามารถชักจูงผู้คน หรือบริวาล ที่ได้พบเจอตัวท่านเอง ให้ได้สร้างกุศลต่อยอดคุณธรรมได้ไม่ยากเลย
    หลายปีแล้วที่ได้เกิดแนวความคิดนี้ขึ้น แล้วได้เขียนโน้ตไว้ เผื่อว่าวันหนึ่งจะได้สร้างสรรค์ขึ้นจริงๆ ซักวันหนึ่ง ก็ได้ทำสำเร็จดังใจ

    เชิญท่านที่สนใจพิจารณาครับ แล้วแต่ความพึงพอใจนะครับ หากท่านต่องการก็เคาะเดียวเลยครับ  ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผลงานชิ้นนี้ยากมากครับ ไม่ได้สร้างง่ายๆ เลยครับ โดยเฉพาะใบหน้าที่จะเขียนให้เหมาะกับแนวความคิด ต้องใช้หลักการกายวิภาคศาสตร์เข้ามาใช้ แสงเงา องค์ประกอบการจัดภาพ คิดตั้งแต่ แนวความคิด (Concept) สีอย่างไร  น้ำหนักอย่างไร รูปทรงอย่างไร รูปร่าง ให้เกิดเอกภาพ ความหมายที่ต้องการสื่อ

     คิดตั้งแต่แรกทำเฟรม ว่าจะเอาสัดส่วนเท่าไหร่ ซึ่งใช้หลักการ Golden Section สัดส่วนทอง 1.168 มาใช้ เผื่อเวลาท่านเอาไปติดจะได้ดูสบายตากับขนาด ไม่ใช่สี่เหลี่ยมผิดส่วนขัดตา   รองพื้นด้วย Gesso (เกสโซ่) อย่างดี เคลือบด้วยน้ำยาวานิช ให้เรียบร้อยเพื่อให้ผลงานคงทนทำความสะอาดได้ครับ