เล่าลือกันมานานแต่หาตัวไม่ค่อยพบไม่ค่อยเจอ เพราะชอบอยู่แต่ในป่าในถ้ำ คือภิกษุรูปหนึ่งอดีตขุนศึกไทใหญ่มีวิทยาคมสูง ตะบะเดชะแก่กล้าใครฆ่าไม่ตายอยู่ทางเหนือของไทย งานทำบุญวันเกิดผู้คนหลั่งไหล เข้าคิวยาวนับเป็นกิโล
ระหว่างงานบุญวันเพ็ญเดือนสิบสอง ตชด.ไทยสกัดจับยาบ้าชุดใหญ่วิสามัญไป ๕ ศพ ตชด.ไทยไม่เป็นอะไรเลย แม้ถูกยิงเต็มหน้าอก กระสุนไม่ระคายผิวมีเพียงตะกรุดครูบาออกดอกเดียว มูลนิธิหลวงปู่ทิมกำลังสร้างพระกริ่งชินบัญชรหัวใจหลวงปู่ทิมจึงนำไปให้ท่านปลุกเสกเดี่ยวเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเพิ่มพลังอานุภาพเมื่อ
ไปพบท่านบนดอยจอมแวะ รตท.เรวัตร กิตติวุฒิกร นายตำรวจ สภอ.เมืองนะ อ.เชียงดาวที่เคยเห็นผลงานของ อ.ชินพร เมื่อร่วมกับคุณธงชัย อุดมความสุข ช่วยกันสร้างทางขึ้นถ้ำผาปล่องพัฒนาจนโด่งดังโดยสร้างเหรียญเมตตาให้หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร ตั้งแต่ ปี ๒๕๑๗ ว่าคนนี้สร้างพระดังและมีผลงานชัดเจน
ครูบาออจึงขอให้สร้างกุฏิให้ท่านบนดอยจอมแวะโดยเซ็นชื่ออนุญาตไว้เป็นหลักฐานเมื่อวันเพ็ญเดือนสิบสองและเมตตาเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชรเชียงรุ้ง นำฤกษ์และปลุกเสกผงวิเศษต่าง ๆ เพื่อนำไปสร้างวัตถุมงคล โดยประกอบพิธีบรวงสรวงครูบาอาจารย์ เทพพรหมในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองตรงกับวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
เมื่อพบพระอริยสงฆ์ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยบุญญฤทธ์และอิทธิฤทธิ์เช่นเดียวกับหลวงปู่ทิมผู้เป็นอาจารย์ คุณชินพรจึงยินดีรับปากช่วยท่าน วัตถุมงคลอันพิเศษสุดจึงจุติขึ้นในวันเพ็ญเดือนสิบสอง เพื่อเป็นของขวัญอันทรงคุณค่าในปี ๒๕๕๘
พระกริ่งชินบัญชรเชียงรุ้ง ช่างฮง ศรีษะเกษออกแบบมีทั้ง ทองคำ เงิน นวะโลหะ เนื้อผงงาผสมผงพรายกุมาร ประกอบด้วย ผงงากำจัด งากำจาย งากะเด็น และวัตถุมงคลจากอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร เมืองนะ
หัวระมานอิงจันทร์ หรือหนุมานอิงจันทร์หรือขุนกระบี่ผู้เรื่องฤทธิ์ใครฆ่าไม่ตายมีเมียทั้งในอากาศ บนดินและในน้ำอุดผงด้วยผงพรายกุมารและผงครูบาออ อันแรงฤทธิ
แมงภู่ทองบนบัลลังก์ของผู้ชนะสิบทิศ ทำให้ผู้คนทั้งรักทั้งหลงทั้งชื่นชอบเป็นเมตตามหานิยมอย่างสูงสุด อุดด้วยปรอทปิดด้วยชันโรงจากเกาะกงผสมผงพรายกุมาร
ขุนศึก (ขุนแผน) ไทใหญ่ ด้านหลังลงยันต์เป็นพระยันต์มนต์มหาจินดามณีเหมือนยันต์ของหลวงปู่ ผสมผงเทวตพลี ผงพรายกุมาร ดิน ธูป เทียน น้ำมนต์จากอนุสาวรีย์พระนเรศวร เมืองนะ และดินในถ้ำขุนแผนเมืองกาญ ทั้งพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ ที่ฝังตะกรุดทองคำ เงิน ทองแดงและผงพรายกุมารล้วน ๆ ก็มี
พิธีพุทธาเทวาภิเษก เดียวโดยครูบาออ ปัญฑิตะ เมื่อวันเพ็ญเดือน ๑๒ มีพระกริ่งชินบัญชรนำฤกษ์และหัวระมานอิงจันทร์ ทั้งขุนศึก(ขุนแผน) ไทใหญ่
พิธีพุทธาภิเษก
25 มกราคา 2558
มวลสารวัตถุมงคลชุด พระกริ่งชินบัญชรเชียงรุ้ง-ขุนแผนไทยใหญ่
มีมวลสารที่นำมากดเป็นพระขุนแผนนั้นทางอาจารย์ชินพรได้จัดเตรียมเป็นพิเศษ
ผสมด้วยผงพรายกุมารและผงพุทธคุณต่างๆ ที่หลวงปู่ทิมให้ไว้กับศิษย์คนสุดท้ายที่วัดละหารไร่
ขณะนอนให้น้ำเกลือก่อนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้งยังได้รับผงพรายก้นครกจากหมอกุหลาบ จ้อยเจริญ
ศิษย์เอกที่หลวงปู่ใช้ให้เตรียมว่านต่างๆ และตำผงผสมผง ทั้งผงจากนายสิงห์ราช อัมฤทธิและอดีตพระทองสุข วงศ์จันทร์
ที่ขออนุญาติหลวงปู่ทิมเก็บไว้เป็นของวิเศษส่วนตัว นอกจากนั้นยังได้ดินจากถ้ำขุนแผน
ตรงที่ผ่าท้องนางบัว คลี ย่างกุมาร
และดินที่ ๘ ปรามาจารย์นั่งล้อมวงประลองวิชากันในถ้ำใหญ่ มาผสมด้วย และมวลสารอีกมากมาหลายเกจิ
ได้นำขึ้นไปบน
สำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะเพื่อให้ ครูบาออปลุกเสกถึง 3 ครั้ง
ครั้งที่ 1 เมื่อขึ้นไปขอท่านเมตตาเสกพระกริ่งหัวใจหลวงปู่ทิม และใน
ครั้งที่ 2 ในงานมหาปราบ กรุงเทพเป็นครั้งที่ครูบาออได้รับกล่าวถึงว่าเป็นพระเกจิที่ซ่อนเร้นกายใน
ป่าใหญ่ยามเมื่อเข้าเมืองแล้วก็เป็นหนึ่งไม่รองใคร
ครั้งที่ 3 ได้ปลุกเสกเมื่อวันเพ็ญเดือนสิบสอง ถือว่าเป็นวันที่ทำให้ผู้ครอบครองวัตถุมงคลในชุดนนี้นั้นมีทั้งเสน่ห์
และทรัพย์จากดวงจันทร์ตามตำราที่กล่าวไว้โดยความที่ตั้งใจของอาจารย์ชินพรจะให้พระขุนแผนไทยใหญ่
เป็นพระที่จะเป็นตำนานอีกหน้าของพระเกจิแห่งขุนเขา
ครูบาออ บัณทิตะ อายุ ๙๙ ปี(อายุที่แน่นอนยังไม่ชัดเจน เนื่องจากการนับปีแบบไทใหญ่ กับไทยไม่เหมือนกัน)
อดีตทหารผู้รักอิสระ กู้ชาติ เพื่อสืบสานเผ่าพันธุ์สายเลือดไทใหญ่ ต่อสู้กับทหารพม่า
มาอย่างโชกโชน ทั้งเป็นนักรักผู้ยิ่งใหญ่ มีเมียถึง ๑๕ คน ใครฆ่าไม่ตาย คุ้มครองลูกน้องให้ปลอดภัยเป็นหมวดหมู่
ขุนแผนเป็นอย่างใดท่านก็เป็นอย่างนั้น หลังจากการใช้ชีวิตอย่างโชกโชนก็หันเข้าพึ่งพระพุทธศาสนาหวังมรรคผล
นิพพาน หลบมาบำเพ็ญกุศล บำเพ็ญบุญในถ้ำตามป่า ตามเขา หลายสิบปี จนญาณสมาบัติแก่กล้า ก็ต้องออกมาช่วย
เหลือเพื่อนมนุษย์ ยังความสุขให้กับประชาชนที่ติดตามค้นหากันมานาน
พระขุนแผน ครูบาออ หรือ พระขุนแผนพรายกุมารจึงจุติออกมาโดยศิษย์เอกหลวงปู่ทิม ผู้สร้างพระหลวงปู่ทิมออกมา
ทุกพิมพ์ทุกรุ่นก็มีผู้นำไปทำเลียนแบบออกมากัน เกลื่อนกราด แต่ขุนแผนรุ่นนี้สร้างขึ้นเองเมื่อครูบาออ ที่ขอให้ช่วย
สร้างศาลาปฏิบัติธรรมแทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม
เมื่อสร้างพระขุนแผนก็อดไม่ได้ที่จะนำศาสศิลปโบราณออกมาใช้ ไม่มุ่งหวังแต่พระเครื่องอย่างเดียว ยังซ่อนวิปัสสนา
กรรมฐานอย่างสูงคือ เอาหัวใจหงส์ทองคู่มาใช้ด้วย ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้เป็นอุบายสำคัญไว้ว่า “หงส์ทองคู่ตัว
หนึ่งอยู่ ตัวหนึ่งไป ตามลมหายใจเข้า-ลมหายใจออก” แม้พระ (สงฆ์) ใช้ก็ต้องปาราชิก โดดเด่นชัดเจนกว่าตะกรุด
ปาราชิก ที่ฝังไว้หลังขุนแผนแสนแสบที่ออกไปไม่นานก็มีราคาเป็นหมื่นเป็นแสนไปแล้ว อย่าพลาดเป็นอันขาด