พระสมเด็จ รุ่นแผ่นดินไหว หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง จ.อุตรดิตถ์ ปี 2513 เรียกว่าเป็นพระสมเด็จที่แพงที่สุดในภาคเหนือตอนนี้ก็ว่าได้

การสร้างพระสมรุ่นแผ่นดินไหว ของหลวงปู่ทองดำ

หลวง ปู่ทองดำท่านมีปฏิปทาและวัตรปฏิบัติที่เรียบง่าย มีเมตตาสูงยอดเยี่ยม ท่านเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากรรมฐาน กุฏิท่านไม่มีอะไร นอกจากอัฐบริขารที่จำเป็นในการประพฤติและปฏิบัติธรรม มีโอ่งน้ำมนต์ใบใหญ่สำหรับสงเคราะห์ผู้ที่เดือดร้อนจากทุกข์ภัย โรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีการสะสมของมีค่าใดๆ บางวันจะมีกล้วยน้ำว้าเป็นเครือแขวนไว้ให้ญาติโยมทานกัน หลวงปู่มีพลังจิตสูง มีกฤติยาอาคมชั้นเลิศ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัดบ้านไร่ และหลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ ได้กล่าวยกย่องชื่นชมหลวงปู่ทองดำแก่ผู้ที่กราบไหว้ท่าน

ปี 2513 หลวงปู่ทองดำ ท่านได้พิจรณาดูความพร้อมหลายๆอย่าง เพื่อให้ญาติโยมและลูกศิษย์ลูกหา รวมถึงผู้มีจิตรศัรทธาจากทางบ้านและที่มาจากต่างจังหวัด ได้มีวัตถุมงคลอันศักดิ์สิทธิ์ใว้เป็ที่ยึดเหนียวจิตใจแก่ผู้ที่มาร่วม บริจาคและผู้ศัรทธาในองค์หลวงปู่ ท่านจึงได้สร้างพระสมเด็จ รุ่น1 ขึ้นมาโดยมอบหมายให้ลูกศิษย์รวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ มารวบรวมใว้

๑.ว่านมหามงคล ๗ ชนิด

๒.ดินโปร่ง ๗ โปร่ง

๓.ดินใต้ฐานพระประธาน ๗ แห่ง

๔.ไคลเสมา ๗ วัด

๕.ดินสังเวชนียสถาน ๔ แห่ง

๖.ผงพุทธคุณ ของคณาจารย์เก่าๆหลายแห่ง

๗.ชิ้นส่วนพระกรุเก่าที่แตกหักชำรุด

๘.ชานหมากหลวงปู่

๙.เนื้อเหล็กน้ำพี้

ซึ่ง มวลสารแต่ละชนิด หลวงปู่ฯท่านเป็นผู้พิจรณาและกำหนดขึ้นมาเพื่อให้มีอณุภาพความศักดิ์สิทธิ์ และพุทธคุณสูงเพื่อให้คุมครองปกปักผู้ที่ครอบครองใว้

พิมพ์และจำนวนการสร้างพระสมเด็จ รุ่น1แผ่นดินไหว

มีทั้งหมดด้วยกัน 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก ส่วนพิมพ์เล็กมีทั้งแบบ หลังยันต์, หลังเรียบ


จำนวนการสร้างทั้งหมด 5,000 องค์ แบ่งเป็น พิมพ์ใหญ่ 2,000 องค์ พิมพ์เล็ก 2,000 องค์ พิมพ์เล็กหลังยันต์ 1,000 องค์

การ ปลุกเสก หลวงปู่ทองดำ ท่านทำการปลุกเสกเดี่ยว ด้วยพลังจิตและพุทธาคมที่สูงส่ง ขณะกำลังนั่งปลุกเสกวัตถุมงคล ได้เกิดแผ่นดินไหวรอบๆบริเวณพิธีปลุกเสก ทำให้ลูกศิษย์และชาวบ้านบริเวณใกล้ตกใจและยกมือท่วมหัว ทำให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาทุกท่านในขณะนั้นรู้ถึงพลังความเข้มขลังและพลา ณุภาพอันสูงล้ำ จึงเป็นที่มาของชื่อพระรุ่นนี้ *สมเด็จแผ่นดินไหว*

หลวง ปู่ฯท่านได้แจกพระรุ่นนี้แด่ ลูกศิษย์และญาติโยมผู้ศรัทธาจนหมด โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆเลย ปัจจุบันจึงเป็นที่เสาะแสงหากันมากทั้งลูกศิษย์และญาติโยมผู้ศรัทธา ทำให้ปัจจุบันกลายเป็นพระสมเด็จที่แพงที่สุดในภาคเหนือไปแล้ว