วัวธนูวัดโขงขาว ปี 2518 พุทธาภิเษก โดย หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล
ตำนาน วัวธนู วัดโขงขาว หลวงปู่คำแสน และหลวงพ่อบุญรัตน์ ท่านคุ้นเคยกันมานานแล้ว ประมาณปี 2518 ที่วัดป่าดอนมูล หลวงปู่คำแสน ท่านได้มอบตำราสร้างวัวธนู ให้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ พร้อมกับสอนวิธีการสร้าง ท่านกล่าวว่า ท่านอายุมากแล้ว เกรงว่าต่อไปวิชานี้จะสูญหาย ในการนี้ ท่านได้มอบวัวธนูที่สร้างจากไม้หวายผ่าซีก และแกะคอดให้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ด้วย (แทรก ต่อมาหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้รับตำราสร้างวัวธนูจาก ครูบาชุ่ม วัดวังมุ่ย ด้วย ซึ่งท่านกล่าวว่า เหมือนกับตำราของหลวงปู่คำแสนเลย ไม่มีผิดเพี้ยนกัน) หลังจากนั้นหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้จัดสร้าง วัวธนูขึ้นตามตำราของหลวงปู่ทั้งสองรูป โดยหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้นำไปให้หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล อธิษฐานจิตเดี่ยว เมื่อเสร็จพิธี หลวงปู่คำแสน ท่านได้กล่าวกับหลวงพ่อบุญรัตน์ว่า "วัวธนูชุดนี้ให้เก็บไว้ก่อน อย่าเพิ่งนำออกมา ในภายภาคหน้า คนจะถามหากันเยอะ จะเป็นที่ต้องการกันมาก" ตรงนี้จึงเป็นมูลเหตุให้หลวงพ่อบุญรัตน์ท่านเก็บวัวธนูชุดนี้ไว้นับแต่บัดนั้น นอกจากหลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูลแล้ว หลวงพ่อบุญรัตน์ยังได้นำวัวธนูชุดนี้ ไปให้ครูบาอาจารย์เสกเดี่ยวอีกหลายรูป คือ หลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุ่ย , หลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก , หลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง , หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม , นอกจากนี้ท่านยังนำมาที่กรุงเทพฯ เพื่อขอความเมตตาให้ หลวงปู่เส่ง วัดกัลยา (ปรมาจารย์ ตำนาน น้ำมนต์ดอกบัวบาน) เสกให้ด้วย ตำนาน วัวธนู วัดโขงขาว หลวงปู่คำแสน และหลวงพ่อบุญรัตน์ ท่านคุ้นเคยกันมานานแล้ว ประมาณปี 2518 ที่วัดป่าดอนมูล หลวงปู่คำแสน ท่านได้มอบตำราสร้างวัวธนู ให้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ พร้อมกับสอนวิธีการสร้าง ท่านกล่าวว่า ท่านอายุมากแล้ว เกรงว่าต่อไปวิชานี้จะสูญหาย ในการนี้ ท่านได้มอบวัวธนูที่สร้างจากไม้หวายผ่าซีก และแกะคอดให้กับหลวงพ่อบุญรัตน์ด้วย (แทรก ต่อมาหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้รับตำราสร้างวัวธนูจาก ครูบาชุ่ม วัดวังมุ่ย ด้วย ซึ่งท่านกล่าวว่า เหมือนกับตำราของหลวงปู่คำแสนเลย ไม่มีผิดเพี้ยนกัน) หลังจากนั้นหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้จัดสร้าง วัวธนูขึ้นตามตำราของหลวงปู่ทั้งสองรูป โดยหลวงพ่อบุญรัตน์ ได้นำไปให้หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล อธิษฐานจิตเดี่ยว เมื่อเสร็จพิธี หลวงปู่คำแสน ท่านได้กล่าวกับหลวงพ่อบุญรัตน์ว่า "วัวธนูชุดนี้ให้เก็บไว้ก่อน อย่าเพิ่งนำออกมา ในภายภาคหน้า คนจะถามหากันเยอะ จะเป็นที่ต้องการกันมาก" ตรงนี้จึงเป็นมูลเหตุให้หลวงพ่อบุญรัตน์ท่านเก็บวัวธนูชุดนี้ไว้นับแต่บัดนั้น นอกจากหลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูลแล้ว หลวงพ่อบุญรัตน์ยังได้นำวัวธนูชุดนี้ ไปให้ครูบาอาจารย์เสกเดี่ยวอีกหลายรูป คือ หลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุ่ย , หลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก , หลวงปู่ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง , หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม , นอกจากนี้ท่านยังนำมาที่กรุงเทพฯ เพื่อขอความเมตตาให้ หลวงปู่เส่ง วัดกัลยา (ปรมาจารย์ ตำนาน น้ำมนต์ดอกบัวบาน) เสกให้ด้วย
หลังจากนั้น วัวธนูรุ่นนี้ได้รับการเสกเดี่ยวจากพระเถราจารย์ระดับสุดยอดอีกหลายรูป) อนาคตวัวธนูรุ่นนี้ ไปได้อีกไกลมากครับ (ลป.คำแสน ท่านคงรู้ ว่าต่อไปจะมีภัยต่างๆมาก ท่านจึงบอกให้เก็บไว้ก่อน ต่อไปคนจะต้องการมาก เพราะครูบาอาจารย์หลายรูปสัมผัสแล้ว รับรองความสุดยอด เช่น ลต.ชลอ วัดศาลฯ สัมผัสแล้ว กล่าวว่า "สุดยอดทางป้องกันเลยนะนี่" พระเถราจารย์รูปหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ท่านกล่าวว่า "วัวธนูนี้เป็นกายสิทธิ์ มีฤทธิ์มาก บูชาที่บ้าน 1 องค์ คุ้มกันได้ทั้งบ้าน การบูชาให้หาพานดินมารองรับ (ควรเป็นดินบริสุทธิ์ เพราะวัวนี้สร้างจากปรอทธรรมชาติ) เพราะวัวต้องอยู่กับดิน" วัวธนูชุดนี้ เมื่อหลายปีก่อน หลวงพ่อบุญรัตน์เคยมอบให้ พระสงบ วัดนาคปรก ไปบูชา 1 องค์ เกิดเรื่องราวคือ มีผู้คนเห็นวัวเดินไปมาตรงกุฏิพระสงบอยู่บ่อยๆ พระสงบท่านจึงนำมาเล่าให้หลวงพ่อบุญรัตน์ฟัง ปัจจุบัน พระสงบได้ละสังขารไปหลายปีแล้ว ไม่รู้เห็นด้วยหรือป่าว ผมว่า นี้คือ วัวธนูอันดับหนึ่ง ในแผ่นดิน การบูชาดูเหมือนจะยาก แต่จริงๆ แล้ว ไม่ยากเลย พระเถระรูปหนึ่ง ท่านกล่าวว่า "วัวธนูรุ่นนี้ ไม่ธรรมดา นอกจากกันภูติผีปีศาจ โจรขโมย ยังสามารถป้องกันภัยพิบัติต่างๆ ได้ด้วย การบูชาให้วางบนพานดิน (ดินบริสุทธิ์) บูชาด้วยน้ำสัก 1 แก้ว (เปลี่ยนทุก 7 วันก็ได้) วัว 1 องค์ สามารถคุ้มได้ทั้งบ้าน วัวธนูรุ่นนี้ มีแต่คุณ ไม่มีโทษ" ที่สำคัญอีกประการ คือ วัวธนูรุ่นนี้ แม้จักลืมอาราธนา ท่านก็ปกป้องคุ้มครองโดยอัตโนมัติเองอยู่แล้ว
|