พระสมเด็จขวานฟ้าโลกอุดร (โรยผงขวานฟ้า) หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา 2538
สมเด็จ ขวานฟ้าโลกอุดร สร้างจากผง หลวงปู่เทพโลกอุดร (ผสมผงพระธาตุ 500 อรหันต์), ผงหลวงปู่ดู่ วัดสะแก (ได้รับจาก หลวงตาม้า), แร่วิเศษจากจังหวัดเลย, เพชรน้ำค้าง และ ขี้เหล็กไหล (โคตรเหล็กไหล) จากถ้ำศักดิ์สิทธิ์ จังหวัดชัยภูมิ, เพชรหน้าทั่ง
มวลสารพิเศษ โรยผงขวานฟ้า ซึ่งบดเป็นผงแล้วโรยหน้าพระ ผงขวานฟ้าจะมีอานุภาพ เทียบเท่ากับขวานฟ้าที่เป็นหินเพราะนำเอาขวานฟ้าที่เป็นหินมาบดแล้วก็โรยที่ องค์พระ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก สามารถสะกดอาถรรณ์ และถอนอาถรรร์ต่าง ๆ ได้ดีมาก เหมือนขวานฟ้าทองสัมฤทธิ์ แต่เป็นรองอยู่นิดหน่อย ขวานฟ้าเป็นสิ่งลึกลับที่เกิดจากการกระทำของวิญญาณชั้นสูงที่มีฤทธิ์ อำนาจมาก วิญญาณชั้นสูงหมายถึงเทพยดาที่อยู่ในท้องฟ้าหรือเรียกว่าอากาศเทวดา ซึ่งเดิมที่เป็นมนุษย์ได้แก่ พระภิกษุสงฆ์ที่สำเร็จอภิญญาสมาบัติ บ้างก็เป็นฤาษีที่สำเร็จฌาน
หลวงปู่โง่น โสรโย กล่าวถึงขวานฟ้าว่า "ขวานฟ้าเป็น เทหวัตถุ ที่ตกลงมาจากท้องฟ้า เป็นต้นว่า เศษของอุกาบาตมักจะตกลงมาในยามที่เกิดพายุฟ้าคะนองท้องฟ้าปั่นป่วนอย่าง รุนแรงมหาศาล ขวานฟ้าที่แท้จริงมีเทพยดาเข้าสิงอยู่นั้นมีอานุภาพทาง มหาอุด คงกระพันชาตรี ถ้าปกติจะเป็นไปในทางแคล้วคลาด ที่เห็นผล เด็ดขาดทันตาคือ เอาแช่ทำเป็นน้ำมนต์ แก้คุณไสย์แก้พิษไฟลวกไฟไหม้ แก้พิษงูเห่า คัดเลือดสมานแผลให้สนิทได้เร็ว ผีปอบเข้า หรือผีเข้าเจ้าสิงกลัวขวานฟ้ามาก เข้าป่าลงน้ำสัตว์ร้ายไม่เข้าใกล้ ห้ามเอาไปแช่งชักหักกระดูกคน เพราะจะให้ผลรวดเร็วรุนแรงดังคำสาปแช่ง ห้ามทำเด็ดขาดเพราะบาปมาก บาปนั้นจะย้อนกลับมาสนองตนเองในภายหลังแบบดาบนั้นคืนสนองมาตัดคอเราให้ขาด สะบั้นนั่นเอง
พระรุ่นนี้นอกจากหลวงปู่ครูบาชัยวงศา แล้ว ยังได้รับการอธิษฐานจิตจากพระเถระอื่นๆ อีก ดังนี้
1. ครูบาหน้อย วัดบ้านปง
2. ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง
3. ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
4. หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง
5. หลวงปู่ดาบส สุมโน
|