ประวัติของหลวงปู่ทองบัว ตันติกโร เกิดวันเสาร์ขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ปีระกา ตรงกับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2464 บุตรของนายปราโมทย์ นางสีดา พุทธสี เกิดที่บ้านหนองผักแว่น อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี มีพี่น้องทั้งหมด 12 คนเป็นชาย 6 หญิง 6 หลวงปู่เป็นคนที่ 9 เมื่อยังเล็กได้ย้ายตามครอบครัวไปอยู่ จ.ขอนแก่น พออายุได้ 18 ปีเข้าบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดสุวรรณคงคง อุปสมบท พ.ศ. 2485 มีพระครูพิศาลคณานุกิจ วัดมหาชัย เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา “ตนฺติกโร” จำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนองแวง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี
กระทั่งงานถวายเพลิงศพหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตแล้วเสร็จ หลวงปู่ได้ร่วมกับกองทัพธรรมใน 108 รูปมุ่งขึ้นมาภาคเหนือ มาจำพรรษาที่วัดแท่นศิลาอาสน์ จ.อุตรดิตถ์ ขณะนั้นคณะศรัทธา อ.สันกำแพง สร้างโรงธรรมในปี พ.ศ.2481 นิมนต์พระสายหลวงปู่มั่นมาพำนักและอบรมสมาธิภาวนา อาทิ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม เมื่อว่างเว้นจากพระเถระ คณะศรัทธาจึงไปนิมนต์หลวงปู่ทองบัวมาจำพรรษาที่สำนักโรงธรรม แล้วได้ขยายอาณาเขตของสำนัก กระทั่งยกฐานะเป็นวัดโรงธรรมสามัคคี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ.2506
หลวงปู่ทองบัว ตันติกโร เป็นเจ้าอาวาสวัดโรงธรรมสามัคคีมาตั้งแต่ต้น โดยได้สร้างพระเจดีย์โพธิปักธิยธรรม เป็นเจดีย์ที่มีรูปร่างแปลกไปจากที่อื่น มีความหมายถึงการนำไปสู่การตรัสรู้ 37 ประการได้แก่ สติปัฏฐาน 4, สัมมัปปธาน 4, อิทธิบาท 4, อินทรีย์ 5, พละ 5, โพชณงค์ 7, มรรคมีองค์ 8 รวมเป็น โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ ฐานเจดีย์เป็นทรงกลม ภายในประกอบห้องสมุด ห้องแสดงศิลปวัตถุ ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิดและพระพุทธรูปต่าง ๆ และชั้นสูงสุดได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ คณะศิษย์ได้สร้างวัตถุมงคลหลายรุ่น แต่ฮือฮาที่สุดคือคชสีลอยองค์ ถึงขนาดปืนยิงไม่เข้า ภายหลังหลวงปู่ทราบห้ามนำไปทดลอง
เมื่อปี 2549 อายุ 84 ปีได้ปรารภสร้างวิหารหลังใหญ่สองชั้น แต่การก่อสร้างค้างคามาตลอด ประกอบกับหลวงปู่อาพาธ แต่คณะศิษยานุศิษย์ทั้งบรรพชิต และฆราวาส ตลอดจนตระกูลชินวัตร ผู้อุปถัมภ์วัด และพระครูจิตติภัทราภรณ์ เจ้าอาวาสก็ได้ร่วมกันสร้างวิหารสองชั้นจนมีความคืบหน้ามาตามลำดับ กระทั่งหลวงปู่มรณภาพลงในวันวิสาขบูชา
สำหรับสมณศักดิ์ที่ได้รับ พ.ศ.2501 เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูวิมลคณาภรณ์ พ.ศ.2535 เป็นพระราชาคณะที่พระวิมลธรรมญาณเถร พ.ศ.2547 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชพุทธิมงคล ด้านการบริหารคณะสงฆ์เคยดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน(ธรรมยุต) เกษียณอายุทางพระสังฆาธิการแล้วจึงได้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด
วันที่ 17 พฤษภาคม 2554 รายงานข่าวแจ้งว่า หลวงปู่ทองบัว ตันติกโร หรือพระราชพุทธิมงคล อายุ 89 ปี พรรษา 69 ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) มรณภาพลงด้วยอาการอันสงบ เมื่อเวลา 04.00 น. โดยมีพระครูจิตติภัทราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโรงธรรมสามัคคี พระเณรในวัด และคณะศรัทธาศิษยานุศิษย์เฝ้าดูแลจนถึงวาระสุดท้าย บวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2464 บุตรของนายปราโมทย์ นางสีดา พุทธสี เกิดที่บ้านหนองผักแว่น อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี มีพี่น้องทั้งหมด 12 คนเป็นชาย 6 หญิง 6 หลวงปู่เป็นคนที่ 9 เมื่อยังเล็กได้ย้ายตามครอบครัวไปอยู่ จ.ขอนแก่น พออายุได้ 18 ปีเข้าบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดสุวรรณคงคง อุปสมบท พ.ศ. 2485 มีพระครูพิศาลคณานุกิจ วัดมหาชัย เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา “ตนฺติกโร” จำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนองแวง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี
กระทั่งงานถวายเพลิงศพหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตแล้วเสร็จ หลวงปู่ได้ร่วมกับกองทัพธรรมใน 108 รูปมุ่งขึ้นมาภาคเหนือ มาจำพรรษาที่วัดแท่นศิลาอาสน์ จ.อุตรดิตถ์ ขณะนั้นคณะศรัทธา อ.สันกำแพง สร้างโรงธรรมในปี พ.ศ.2481 นิมนต์พระสายหลวงปู่มั่นมาพำนักและอบรมสมาธิภาวนา อาทิ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม เมื่อว่างเว้นจากพระเถระ คณะศรัทธาจึงไปนิมนต์หลวงปู่ทองบัวมาจำพรรษาที่สำนักโรงธรรม แล้วได้ขยายอาณาเขตของสำนัก กระทั่งยกฐานะเป็นวัดโรงธรรมสามัคคี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ.2506
หลวงปู่ทองบัว ตันติกโร เป็นเจ้าอาวาสวัดโรงธรรมสามัคคีมาตั้งแต่ต้น โดยได้สร้างพระเจดีย์โพธิปักธิยธรรม เป็นเจดีย์ที่มีรูปร่างแปลกไปจากที่อื่น มีความหมายถึงการนำไปสู่การตรัสรู้ 37 ประการได้แก่ สติปัฏฐาน 4, สัมมัปปธาน 4, อิทธิบาท 4, อินทรีย์ 5, พละ 5, โพชณงค์ 7, มรรคมีองค์ 8 รวมเป็น โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ ฐานเจดีย์เป็นทรงกลม ภายในประกอบห้องสมุด ห้องแสดงศิลปวัตถุ ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิดและพระพุทธรูปต่าง ๆ และชั้นสูงสุดได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ คณะศิษย์ได้สร้างวัตถุมงคลหลายรุ่น แต่ฮือฮาที่สุดคือคชสีลอยองค์ ถึงขนาดปืนยิงไม่เข้า ภายหลังหลวงปู่ทราบห้ามนำไปทดลอง
เมื่อปี 2549 อายุ 84 ปีได้ปรารภสร้างวิหารหลังใหญ่สองชั้น แต่การก่อสร้างค้างคามาตลอด ประกอบกับหลวงปู่อาพาธ แต่คณะศิษยานุศิษย์ทั้งบรรพชิต และฆราวาส ตลอดจนตระกูลชินวัตร ผู้อุปถัมภ์วัด และพระครูจิตติภัทราภรณ์ เจ้าอาวาสก็ได้ร่วมกันสร้างวิหารสองชั้นจนมีความคืบหน้ามาตามลำดับ กระทั่งหลวงปู่มรณภาพลงในวัน
"หลวงปู่ทองบัว ตันติกโร” พระเถระผู้ใหญ่เชียงใหม่ ละสังขารวันวิสาขบูชา
ประวัติของหลวงปู่ทองบัว ตันติกโร เกิดวันเสาร์ขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ปีระกา ตรงกับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2464 บุตรของนายปราโมทย์ นางสีดา พุทธสี เกิดที่บ้านหนองผักแว่น อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี มีพี่น้องทั้งหมด 12 คนเป็นชาย 6 หญิง 6 หลวงปู่เป็นคนที่ 9 เมื่อยังเล็กได้ย้ายตามครอบครัวไปอยู่ จ.ขอนแก่น พออายุได้ 18 ปีเข้าบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดสุวรรณคงคง อุปสมบท พ.ศ. 2485 มีพระครูพิศาลคณานุกิจ วัดมหาชัย เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา “ตนฺติกโร” จำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนองแวง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี
กระทั่งงานถวายเพลิงศพหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตแล้วเสร็จ หลวงปู่ได้ร่วมกับกองทัพธรรมใน 108 รูปมุ่งขึ้นมาภาคเหนือ มาจำพรรษาที่วัดแท่นศิลาอาสน์ จ.อุตรดิตถ์ ขณะนั้นคณะศรัทธา อ.สันกำแพง สร้างโรงธรรมในปี พ.ศ.2481 นิมนต์พระสายหลวงปู่มั่นมาพำนักและอบรมสมาธิภาวนา อาทิ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม เมื่อว่างเว้นจากพระเถระ คณะศรัทธาจึงไปนิมนต์หลวงปู่ทองบัวมาจำพรรษาที่สำนักโรงธรรม แล้วได้ขยายอาณาเขตของสำนัก กระทั่งยกฐานะเป็นวัดโรงธรรมสามัคคี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ.2506
หลวงปู่ทองบัว ตันติกโร เป็นเจ้าอาวาสวัดโรงธรรมสามัคคีมาตั้งแต่ต้น โดยได้สร้างพระเจดีย์โพธิปักธิยธรรม เป็นเจดีย์ที่มีรูปร่างแปลกไปจากที่อื่น มีความหมายถึงการนำไปสู่การตรัสรู้ 37 ประการได้แก่ สติปัฏฐาน 4, สัมมัปปธาน 4, อิทธิบาท 4, อินทรีย์ 5, พละ 5, โพชณงค์ 7, มรรคมีองค์ 8 รวมเป็น โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ ฐานเจดีย์เป็นทรงกลม ภายในประกอบห้องสมุด ห้องแสดงศิลปวัตถุ ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิดและพระพุทธรูปต่าง ๆ และชั้นสูงสุดได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ คณะศิษย์ได้สร้างวัตถุมงคลหลายรุ่น แต่ฮือฮาที่สุดคือคชสีลอยองค์ ถึงขนาดปืนยิงไม่เข้า ภายหลังหลวงปู่ทราบห้ามนำไปทดลอง
เมื่อปี 2549 อายุ 84 ปีได้ปรารภสร้างวิหารหลังใหญ่สองชั้น แต่การก่อสร้างค้างคามาตลอด ประกอบกับหลวงปู่อาพาธ แต่คณะศิษยานุศิษย์ทั้งบรรพชิต และฆราวาส ตลอดจนตระกูลชินวัตร ผู้อุปถัมภ์วัด และพระครูจิตติภัทราภรณ์ เจ้าอาวาสก็ได้ร่วมกันสร้างวิหารสองชั้นจนมีความคืบหน้ามาตามลำดับ กระทั่งหลวงปู่มรณภาพลงในวันวิสาขบูชา
สำหรับสมณศักดิ์ที่ได้รับ พ.ศ.2501 เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูวิมลคณาภรณ์ พ.ศ.2535 เป็นพระราชาคณะที่พระวิมลธรรมญาณเถร พ.ศ.2547 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชพุทธิมงคล ด้านการบริหารคณะสงฆ์เคยดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน(ธรรมยุต) เกษียณอายุทางพระสังฆาธิการแล้วจึงได้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด
วันที่ 17 พฤษภาคม 2554 รายงานข่าวแจ้งว่า หลวงปู่ทองบัว ตันติกโร หรือพระราชพุทธิมงคล อายุ 89 ปี พรรษา 69 ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) มรณภาพลงด้วยอาการอันสงบ เมื่อเวลา 04.00 น. โดยมีพระครูจิตติภัทราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโรงธรรมสามัคคี พระเณรในวัด และคณะศรัทธาศิษยานุศิษย์เฝ้าดูแลจนถึงวาระสุดท้าย ประวัติของหลวงปู่ทองบัว ตันติกโร เกิดวันเสาร์ขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ปีระกา ตรงกับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2464 บุตรของนายปราโมทย์ นางสีดา พุทธสี เกิดที่บ้านหนองผักแว่น อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี มีพี่น้องทั้งหมด 12 คนเป็นชาย 6 หญิง 6 หลวงปู่เป็นคนที่ 9 เมื่อยังเล็กได้ย้ายตามครอบครัวไปอยู่ จ.ขอนแก่น พออายุได้ 18 ปีเข้าบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดสุวรรณคงคง อุปสมบท พ.ศ. 2485 มีพระครูพิศาลคณานุกิจ วัดมหาชัย เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา “ตนฺติกโร” จำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนองแวง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี
กระทั่งงานถวายเพลิงศพหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตแล้วเสร็จ หลวงปู่ได้ร่วมกับกองทัพธรรมใน 108 รูปมุ่งขึ้นมาภาคเหนือ มาจำพรรษาที่วัดแท่นศิลาอาสน์ จ.อุตรดิตถ์ ขณะนั้นคณะศรัทธา อ.สันกำแพง สร้างโรงธรรมในปี พ.ศ.2481 นิมนต์พระสายหลวงปู่มั่นมาพำนักและอบรมสมาธิภาวนา อาทิ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม เมื่อว่างเว้นจากพระเถระ คณะศรัทธาจึงไปนิมนต์หลวงปู่ทองบัวมาจำพรรษาที่สำนักโรงธรรม แล้วได้ขยายอาณาเขตของสำนัก กระทั่งยกฐานะเป็นวัดโรงธรรมสามัคคี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ.2506
หลวงปู่ทองบัว ตันติกโร เป็นเจ้าอาวาสวัดโรงธรรมสามัคคีมาตั้งแต่ต้น โดยได้สร้างพระเจดีย์โพธิปักธิยธรรม เป็นเจดีย์ที่มีรูปร่างแปลกไปจากที่อื่น มีความหมายถึงการนำไปสู่การตรัสรู้ 37 ประการได้แก่ สติปัฏฐาน 4, สัมมัปปธาน 4, อิทธิบาท 4, อินทรีย์ 5, พละ 5, โพชณงค์ 7, มรรคมีองค์ 8 รวมเป็น โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ ฐานเจดีย์เป็นทรงกลม ภายในประกอบห้องสมุด ห้องแสดงศิลปวัตถุ ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิดและพระพุทธรูปต่าง ๆ และชั้นสูงสุดได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ คณะศิษย์ได้สร้างวัตถุมงคลหลายรุ่น แต่ฮือฮาที่สุดคือคชสีลอยองค์ ถึงขนาดปืนยิงไม่เข้า ภายหลังหลวงปู่ทราบห้ามนำไปทดลอง
เมื่อปี 2549 อายุ 84 ปีได้ปรารภสร้างวิหารหลังใหญ่สองชั้น แต่การก่อสร้างค้างคามาตลอด ประกอบกับหลวงปู่อาพาธ แต่คณะศิษยานุศิษย์ทั้งบรรพชิต และฆราวาส ตลอดจนตระกูลชินวัตร ผู้อุปถัมภ์วัด และพระครูจิตติภัทราภรณ์ เจ้าอาวาสก็ได้ร่วมกันสร้างวิหารสองชั้นจนมีความคืบหน้ามาตามลำดับ กระทั่งหลวงปู่มรณภาพลงในวันวิสาขบูชา
สำหรับสมณศักดิ์ที่ได้รับ พ.ศ.2501 เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูวิมลคณาภรณ์ พ.ศ.2535 เป็นพระราชาคณะที่พระวิมลธรรมญาณเถร พ.ศ.2547 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชพุทธิมงคล ด้านการบริหารคณะสงฆ์เคยดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน(ธรรมยุต) เกษียณอายุทางพระสังฆาธิการแล้วจึงได้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด
วันที่ 17 พฤษภาคม 2554 รายงานข่าวแจ้งว่า หลวงปู่ทองบัว ตันติกโร หรือพระราชพุทธิมงคล อายุ 89 ปี พรรษา 69 ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) มรณภาพลงด้วยอาการอันสงบ เมื่อเวลา 04.00 น. โดยมีพระครูจิตติภัทราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโรงธรรมสามัคคี พระเณรในวัด และคณะศรัทธาศิษยานุศิษย์เฝ้าดูแลจนถึงวาระสุดท้าย สำหรับสมณศักดิ์ที่ได้รับ พ.ศ.2501 เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูวิมลคณาภรณ์ พ.ศ.2535 เป็นพระราชาคณะที่พระวิมลธรรมญาณเถร พ.ศ.2547 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชพุทธิมงคล ด้านการบริหารคณะสงฆ์เคยดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน(ธรรมยุต) เกษียณอายุทางพระสังฆาธิการแล้วจึงได้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด
วันที่ 17 พฤษภาคม 2554 รายงานข่าวแจ้งว่า หลวงปู่ทองบัว ตันติกโร หรือพระราชพุทธิมงคล อายุ 89 ปี พรรษา 69 ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) มรณภาพลงด้วยอาการอันสงบ เมื่อเวลา 04.00 น. โดยมีพระครูจิตติภัทราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโรงธรรมสามัคคี พระเณรในวัด และคณะศรัทธาศิษยานุศิษย์เฝ้าดูแลจนถึงวาระสุดท้าย
|