หรียญครูบากองแก้ว รุ่นแรก ปี 2517 วัดต้นยางหลวง เชียงใหม่ 
หลวงปู่ครูบากองแก้ว ญาณวิชโย วัดต้นยางหลวง ต.ป่าบง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ท่านได้ถือกำเนิดขึ้นในวัน พฤหัสบดี ที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๔๐ ปี ฉลู ณ.บ้านร้อง ต.ป่าบง โยมบิดาชื่อ พ่อมา โยมมารดาชื่อ แม่หล้าท่านมีพี่น้องรวมกันทั้งหมด ๗ คน บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๔ ปี ที่วัดต้นยางหลวง และได้เล่าเรียนหนังสือและอักขระพื้นเมืองจวบจนอายุท่านย่างเข้า ๒๐ ปี ในปี ๒๔๕๙ ท่านก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีครูบาสิทธิ วัดศรีคำชมพูเป็นพระอุปัชฌาย์ ในช่วงนี้ท่านได้ไปเล่าเรียนพระปริยัติธรรมที่ วัดพันตองจนสอบนักธรรม ตรีได้ และเรียนแนวทางการปฏิบัติกรรมัฏฐานที่วัดป่าเหียง จ.ลำปาง และกลับมาเป็น อาจารย์สอนปริยัติธรรมที่วัดต้นยางหลวง หลวงปู่ครูบากองแก้วท่านเป็นพระสันโดษ ฉันอาหารวันละมื้อ เท่านั้น ในสมัยที่ท่านยังหนุ่มๆ ท่านมัก จะเดินธุดงค์ ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ตามถ้ำ ตามสุสาน ต่างๆ ครูบากองแก้วท่านเป็นพระอีกรูปหนึ่งที่อยู่ในยุคของพระครูบาเจ้าศรีวิชัยเคยร่วม ในงานบุญด้วยหลายครั้ง รวมทั้งเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ การสร้างทางขึ้น ดอยสุเทพที่มีครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นประธาน วัตถุมงคลของท่านในยุคแรกๆ นั้น จะเป็นลักษณะของตะกรุดที่มีชื่อว่าตะกรุด กาสะท้อน พอกครั่ง ซึ่งได้รับการ สืบต่อกันมา จากพระมหาเมธังกร จ.แพร่ และ มีหลายท่านในภาคเหนือที่ได้รับการ สืบต่อการทำตะกรุดลักษณะนี้ อาทิ เช่น ครูบาชุ่ม ครูบากองแก้ว ครูบาต๋า ครูบาผัด และอีกหลายท่าน วัตถุมงคลที่เป็นลักษณะของรูปเหมือน ที่สร้างเป็นครั้งแรก ในปี ๒๕๑๗ โดยคุณสมใจ ชุติมาส.ส.เชียงใหม่เวลานั้น สร้าง เหรียญถวายจำนวน ๕๐๐๐ องค์ เนื้อทองแดงเพียงอย่างเดียว และ ทางคณะกรรมการวัดได้สร้างพระพิมพ์ดินเผา ๒๐,๐๐๐ องค์ แบ่งบรรจุ ไว้ในแท่นแก้วใต้ฐานพระ ๑๐,๐๐๐ องค์ ที่เหลือนำออกบูชา และในปี ๒๕๒๐ รุ่นนี้ ชื่อว่ารุ่น “จตุรพร” มีวัตถุประสงค์ ในการหารายได้มาสร้างอุโบสถ วัดต้นยางหลวง เหรียญรุ่นนี้สร้างจากแบบเหรียญนั่งพานของหลวงปู่ทิม เนื้อของเหรียญ สร้างจากฉนวนพระเก่ามากมาย เช่น ฉนวนพระกริ่งชินบัญชร ตะกรุดแผ่นยันต์ เก่าและใหม่หลายคณาจารย์ แผ่นทองจังโก๋เก่า เงินพดด้วง ทองระฆังเก่า นำมาหลอม สร้างเป็น เหรียญ เนื้อ ทองผสม จำนวน ๒๙๙๙๙ องค์ เนื้อเงิน ๙๙ องค์ เนื้อทองคำ ๑๙ องค์ และพระผงที่สร้างจากมวลสารมากมาย เช่น ผงพราย หลวงปู่ทิม พระเครื่องเกจิอาจารย์ที่ชำรุดหลายองค์ ใบลานเก่า ไคลเสมาดินขุยปู ว่านต่างๆ แล้วสร้างเป็นพระผงรูปเหมือนสีเหลี่ยม ๑๒๐๐ องค์ พระปิดตาทรงหกเหลี่ยมใหญ่ ๓๐๐ องค์ พระปิดตาทรงโค้งกลาง ๑,๐๐๐ องค์ และ พระปิดตาพิมพ์เล็ก แจกกรรมการไม่ทราบจำนวน(มีน้อย) โดยหลวงปูท่าน เมตาอธิฐานจิตก่อน ๑ ไตรมาส และ เข้าพิธีใหญ่อีกครั้งในเดือน ธันวาคม โดยมีพระเกจิอาจารย์ ที่ ร่วมปลุกเสกครั้งนั้น ได้แก่ ครูบาธรรมชัย ครูบาพรหมา ครูบาคำแสน ครูบาหล้า ครูบาดวงดี และอีกหลายท่าน และในปีพ.ศ.๒๕๒๑ สร้างเหรียญรูปเหมือน จำนวน ๑๐๐๐๐ องค์ เนื้อเงิน ๑๐๐ เหรียญ หลวงปูท่านเริ่มมีอาการอาพาธในปี ๒๕๒๒ เรื่อยมา จนกระทั่งในปี ๒๕๒๔ วันที่ ๓ กรกฎาคม ท่านก็ได้มรณภาพลงด้วยโรคชรา รวมสิริอายุ ๘๔ ปี ๖๔ พรรษา

เรื่องราวของพระดีศรีล้านนา ว่า ด้วย "อภินิหาร ครูบา

กองแก้ว วัดต้นยางหลวง อ.สารภี จ.เชียงใหม่"

 

ครูบากองแก้วนั้นนับได้ว่าเป็นศิษย์องค์สำคัญองค์

หนึ่งของครูบาเจ้าศรีวิชัย ท่านเป็นศิษย์รุ่นแรกที่ติด

ตามครูบาศรีวิชัยไปสร้างทาง เป็นลูกศิษย์ที่ครูบาศรี

วิชัยให้คุมการสร้างทางเป็นหลัก 

 

ท่านมีความอาวุโวกว่า ครูบาธรรมชัย ครูบาขาวปี

ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี และ ครูบาวงศ์ (ตอนที่ท่านไป

สร้างทางนั้น ครูบาวงศ์ยังไม่บวชเป็นพระและท่านเอง

ก็เคยพบครูบาดวงดีตั้งแต่ครูบาดวงดียังเป็นเด็ก

อายุ13ปี )

 

ด้วยท่านติดตามครูบาศรีวิชัยมาตั้งแต่ยังเป็นเณร ดัง

นั้นคงไม่ต้องคาดเดาถึงวิชาที่ท่านได้สืบต่อมาจะมีข

นาดไหน

 

ครั้งหนึ่ง ในการสร้างเหรียญรุ่นแรกของท่าน เมื่อปี17

ผู้สร้างได้ขอท่านว่า "จะเอาเหรียญท่านไปขอให้หลวง

ปู่แหวนเสก" 

 

ท่านก็เลยถามว่า ทำไม?

ผู้สร้างบอกว่า " หลวงปู่แหวนกำลังดัง ก็อยากให้

เหรียญของท่านดังบ้าง "

 

ท่านบอกว่า"อยากดัง เฮาก็ทำได้"

คืนนั้นพระเณรไม่ต้องได้นอนเพราะท่านปลุกเสก

เหรียญ จนเหรียญดิ้นกระแทกลังดังเกรียวกราว
 

บางท่านที่ทันยุคเล่าลูกหลานฟังไว้ว่า "ไม่ใช่แค่

เหรียญกระแทกลังดัง แต่ ท่านเสกจนกล่องใส่เหรียญ

ระเบิด "

 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากท่านผู้เขียนไว้เดิม ขอ

อนุญาตนำมาเรียบเรียงแพร่เพื่อประกาศเกียรติคุณ

ครูบาอาจารย์อีกครั้งครับ

เรื่องราวของพระดีศรีล้านนา ว่า ด้วย "อภินิหาร ครูบา

กองแก้ว วัดต้นยางหลวง อ.สารภี จ.เชียงใหม่"

 

ครูบากองแก้วนั้นนับได้ว่าเป็นศิษย์องค์สำคัญองค์

หนึ่งของครูบาเจ้าศรีวิชัย ท่านเป็นศิษย์รุ่นแรกที่ติด

ตามครูบาศรีวิชัยไปสร้างทาง เป็นลูกศิษย์ที่ครูบาศรี

วิชัยให้คุมการสร้างทางเป็นหลัก 

 

ท่านมีความอาวุโวกว่า ครูบาธรรมชัย ครูบาขาวปี

ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี และ ครูบาวงศ์ (ตอนที่ท่านไป

สร้างทางนั้น ครูบาวงศ์ยังไม่บวชเป็นพระและท่านเอง

ก็เคยพบครูบาดวงดีตั้งแต่ครูบาดวงดียังเป็นเด็ก

อายุ13ปี )

 

ด้วยท่านติดตามครูบาศรีวิชัยมาตั้งแต่ยังเป็นเณร ดัง

นั้นคงไม่ต้องคาดเดาถึงวิชาที่ท่านได้สืบต่อมาจะมีข

นาดไหน

 

ครั้งหนึ่ง ในการสร้างเหรียญรุ่นแรกของท่าน เมื่อปี17

ผู้สร้างได้ขอท่านว่า "จะเอาเหรียญท่านไปขอให้หลวง

ปู่แหวนเสก" 

 

ท่านก็เลยถามว่า ทำไม?

ผู้สร้างบอกว่า " หลวงปู่แหวนกำลังดัง ก็อยากให้

เหรียญของท่านดังบ้าง "

 

ท่านบอกว่า"อยากดัง เฮาก็ทำได้"

คืนนั้นพระเณรไม่ต้องได้นอนเพราะท่านปลุกเสก

เหรียญ จนเหรียญดิ้นกระแทกลังดังเกรียวกราว
 

บางท่านที่ทันยุคเล่าลูกหลานฟังไว้ว่า "ไม่ใช่แค่

เหรียญกระแทกลังดัง แต่ ท่านเสกจนกล่องใส่เหรียญ

ระเบิด "

 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากท่านผู้เขียนไว้เดิม ขอ

อนุญาตนำมาเรียบเรียงแพร่เพื่อประกาศเกียรติคุณ

ครูบาอาจารย์อีกครั้งครับ

หรียญครูบากองแก้ว รุ่นแรก ปี 2517 วัดต้นยางหลวง เชียงใหม่ 
หลวงปู่ครูบากองแก้ว ญาณวิชโย วัดต้นยางหลวง ต.ป่าบง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ท่านได้ถือกำเนิดขึ้นในวัน พฤหัสบดี ที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๔๐ ปี ฉลู ณ.บ้านร้อง ต.ป่าบง โยมบิดาชื่อ พ่อมา โยมมารดาชื่อ แม่หล้าท่านมีพี่น้องรวมกันทั้งหมด ๗ คน บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๔ ปี ที่วัดต้นยางหลวง และได้เล่าเรียนหนังสือและอักขระพื้นเมืองจวบจนอายุท่านย่างเข้า ๒๐ ปี ในปี ๒๔๕๙ ท่านก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีครูบาสิทธิ วัดศรีคำชมพูเป็นพระอุปัชฌาย์ ในช่วงนี้ท่านได้ไปเล่าเรียนพระปริยัติธรรมที่ วัดพันตองจนสอบนักธรรม ตรีได้ และเรียนแนวทางการปฏิบัติกรรมัฏฐานที่วัดป่าเหียง จ.ลำปาง และกลับมาเป็น อาจารย์สอนปริยัติธรรมที่วัดต้นยางหลวง หลวงปู่ครูบากองแก้วท่านเป็นพระสันโดษ ฉันอาหารวันละมื้อ เท่านั้น ในสมัยที่ท่านยังหนุ่มๆ ท่านมัก จะเดินธุดงค์ ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ตามถ้ำ ตามสุสาน ต่างๆ ครูบากองแก้วท่านเป็นพระอีกรูปหนึ่งที่อยู่ในยุคของพระครูบาเจ้าศรีวิชัยเคยร่วม ในงานบุญด้วยหลายครั้ง รวมทั้งเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ การสร้างทางขึ้น ดอยสุเทพที่มีครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นประธาน วัตถุมงคลของท่านในยุคแรกๆ นั้น จะเป็นลักษณะของตะกรุดที่มีชื่อว่าตะกรุด กาสะท้อน พอกครั่ง ซึ่งได้รับการ สืบต่อกันมา จากพระมหาเมธังกร จ.แพร่ และ มีหลายท่านในภาคเหนือที่ได้รับการ สืบต่อการทำตะกรุดลักษณะนี้ อาทิ เช่น ครูบาชุ่ม ครูบากองแก้ว ครูบาต๋า ครูบาผัด และอีกหลายท่าน วัตถุมงคลที่เป็นลักษณะของรูปเหมือน ที่สร้างเป็นครั้งแรก ในปี ๒๕๑๗ โดยคุณสมใจ ชุติมาส.ส.เชียงใหม่เวลานั้น สร้าง เหรียญถวายจำนวน ๕๐๐๐ องค์ เนื้อทองแดงเพียงอย่างเดียว และ ทางคณะกรรมการวัดได้สร้างพระพิมพ์ดินเผา ๒๐,๐๐๐ องค์ แบ่งบรรจุ ไว้ในแท่นแก้วใต้ฐานพระ ๑๐,๐๐๐ องค์ ที่เหลือนำออกบูชา และในปี ๒๕๒๐ รุ่นนี้ ชื่อว่ารุ่น “จตุรพร” มีวัตถุประสงค์ ในการหารายได้มาสร้างอุโบสถ วัดต้นยางหลวง เหรียญรุ่นนี้สร้างจากแบบเหรียญนั่งพานของหลวงปู่ทิม เนื้อของเหรียญ สร้างจากฉนวนพระเก่ามากมาย เช่น ฉนวนพระกริ่งชินบัญชร ตะกรุดแผ่นยันต์ เก่าและใหม่หลายคณาจารย์ แผ่นทองจังโก๋เก่า เงินพดด้วง ทองระฆังเก่า นำมาหลอม สร้างเป็น เหรียญ เนื้อ ทองผสม จำนวน ๒๙๙๙๙ องค์ เนื้อเงิน ๙๙ องค์ เนื้อทองคำ ๑๙ องค์ และพระผงที่สร้างจากมวลสารมากมาย เช่น ผงพราย หลวงปู่ทิม พระเครื่องเกจิอาจารย์ที่ชำรุดหลายองค์ ใบลานเก่า ไคลเสมาดินขุยปู ว่านต่างๆ แล้วสร้างเป็นพระผงรูปเหมือนสีเหลี่ยม ๑๒๐๐ องค์ พระปิดตาทรงหกเหลี่ยมใหญ่ ๓๐๐ องค์ พระปิดตาทรงโค้งกลาง ๑,๐๐๐ องค์ และ พระปิดตาพิมพ์เล็ก แจกกรรมการไม่ทราบจำนวน(มีน้อย) โดยหลวงปูท่าน เมตาอธิฐานจิตก่อน ๑ ไตรมาส และ เข้าพิธีใหญ่อีกครั้งในเดือน ธันวาคม โดยมีพระเกจิอาจารย์ ที่ ร่วมปลุกเสกครั้งนั้น ได้แก่ ครูบาธรรมชัย ครูบาพรหมา ครูบาคำแสน ครูบาหล้า ครูบาดวงดี และอีกหลายท่าน และในปีพ.ศ.๒๕๒๑ สร้างเหรียญรูปเหมือน จำนวน ๑๐๐๐๐ องค์ เนื้อเงิน ๑๐๐ เหรียญ หลวงปูท่านเริ่มมีอาการอาพาธในปี ๒๕๒๒ เรื่อยมา จนกระทั่งในปี ๒๕๒๔ วันที่ ๓ กรกฎาคม ท่านก็ได้มรณภาพลงด้วยโรคชรา รวมสิริอายุ ๘๔ ปี ๖๔ พรรษา