ขุนแผนชินกัวเผาะ หลวงพ่อชู กันตวีโร สำนักสงฆ์หินเหล็กไฟ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์

ขุนแผนชินกัวเผาะ เนื้อตะกั่วหรือที่เรียก"ฟันลูกเดียว"หลวงพ่อชู สำนักสงฆ์หินเหล็กไฟ อุดผงจินดามณีและผงพรายกุมารผสมกั่วเผาะ, น้ำมันอาถรรพ์ช้าง หลังดาบฟ้าฟื้น

กัวเผาะ ภาษาส่วยแปลว่า ฟันลูกเดียว (ฟัน.....ลูกเดียว มีมาให้ฟันตลอด) คือ น้ำมันของช้างที่กำลังตกมัน ซึ่งเจ้าของต้องตีปลอกล่ามโซ่ไว้ เพื่อป้องกันมันไปกระทืบคน เพราะเวลาที่ช้างตกมัน เป็นเวลาที่มีอารมณ์รุนแรง โดยเฉพาะอารมณ์ทางเพศจะรุนแรงมาก และน้ำมันที่ไหลออกมาจากขมับทั้งซ้ายและขวา จะเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่แรงและมีพลังอำนาจมากๆ เป็นสุดยอดทางเมตตามหานิยม "ท่านทำมาจากของดีที่เอายาก คนไปเอาของดีชนิดนี้ ดีไม่ดี ตายเอาง่ายๆ" "กั่วเผาะ" คือสุดยอดของเครื่องรางทางเมตตามหานิยมที่มีต้นกำเนิดทางอีสานใต้ หาคนทำได้ยากที่สุด เพราะถ้าคนทำไม่เก่งจริง มีแต่ตายลูกเดียว คนที่จะทำ"กั่วเผาะ"ได้ จะต้องเสี่ยงกับความตายโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เมื่อไปเอามาได้แล้วต้องผสมลงในสีผึ้งทันที่เพราะเป็นน้ำมันที่ระเหยเร็วมาก หลวงพ่อชู ท่านเล่าว่า นำมันช้างตกมันเป็นของอาถรรพณ์ที่ที่หายาก มีผลทางเสน่ห์มหานิยมมากที่สุด จากนั้นจึงนำมาทำพิธีปลุกเสก "หลวงพ่อชู กันตะวีโร" ท่านปลูกกระท่อมอยู่รูปเดียวในหมู่บ้านหินเหล็กไฟ ที่อยู่ลึกไปจาก ต.กะโพ อีก 10 กว่ากิโล ท่านชื่อ เมื่อประมาณปี 2527 คือ 20 ปีที่แล้ว ก่อนที่ท่านจะมาบวช ท่านเคยเป็น "ณุ เฒ่า"มาก่อน "ณุ เฒ่า"คือหมอไสยศาสตร์ หรือคนที่มีวิชาอาคมเก่งกล้า เป็นอาจารย์ของพวกส่วยที่เลี้ยงช้าง ท่านเป็น"ณุ เฒ่า"มาตั้งแต่หนุ่มๆ ท่านมีเมียมีลูกมาก จนจำไม่ได้ว่าลูกคนไหน แม่คนไหน เพราะมีมากเหลือเกิน ชาวบ้านแถวนั้นเล่าว่า..หลวงพ่อชูสมัยเป็นฆราวาส ท่านเป็นหมอไสยศาสตร์ที่เก่งกาจมาก จะหาคนเท่าเทียมได้ยาก นอกจากท่านจะเก่งกาจในเรื่องช้างแล้ว ท่านยังเชี่ยวชาญเรื่องการทำเสน่ห์ยาแฝดอีกด้วย วัตถุที่ท่านนำมาใช้ก็คือ "น้ำมันกั่วเผาะ"และท่านยังเอาว่าน และวัตถุอาถรรพณ์ต่างๆ เช่นสีผึ้งตามท่ารถ ท่าเรือ 7 ท่า มาผสมและว่านมงคลต่างๆ หลวงพ่อชูท่านยังกล่าวอีกว่า "กัวเผาะ"ที่ท่านทำขึ้นนั้น ใช้ได้ผลดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นให้ผัวเมียรักกัน หรือ ให้ผัวกลับมารักเมีย หลงเมีย เลิกจากเมียน้อย ท่านก็ทำได้ทั้งนั้น แต่วิชานี้เป็นวิชามาร ทำไปมากๆเข้ามารก็มาสิงในตัวท่าน ผู้หญิงที่มาหาท่านให้ท่านลงของหรือทำของให้ ท่านก็จะเอาทำเมียหมด เมื่อทำเข้าบ่อยครั้งเข้า ท่านก็สำนึกได้ว่านั่นคือ "นรก" ท่านจึงตั้งใจจะบวชสักพรรษาเดียว เพื่อจะฝึกจิตให้แข็งกว่ามาร จะได้เลิกทำชั่ว เมื่อบวชแล้ว ท่านจึงรู้ว่าที่ทำไปมันก็นรกดีๆนี่เอง ท่านจึงบวชไม่ยอมสึกและมาปลูกกระท่อมอยู่กลางป่าในหมู่บ้านหินเหล็กไฟ คุณชินพรสุข สถิตย์ จึงไปขอให้ท่านสร้างขุนแผนขึ้น นับเป็นขุนแผนรุ่นแรกที่สร้างขึ้นจากผงพรายกุมาร หลังจากที่หลวงปู่ทิม มรณะภาพแล้ว โดยผมสมกับกั่วเผาะ เรียกว่า "ขุนแผนกั่วเผาะ" มีทั้งพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก และทางคุณชินพรได้หาฤกษ์อันเป็นมหานิยมและโชคลาภ โดยโหรผู้ที่มีชื่อเสียงนามว่า สหัสรังษี (หมายความว่าพยากรณ์ได้แม่นยำดุจด้วยญาณ) ได้คำนวณฤกษ์ยามให้โดยเริ่มลงมือกดพิมพ์ในวันอันเป็นวันที่จันทร์เป็น มหาจักรกับราหู มีมฤตยูกุมพระเกตุ ซึ่งถือว่าเป็นฤกษ์แห่งเมตตามหานิยมและโชคลาภ ลงมือบดผงพิมพ์เป็นองค์พระ และ ลป.ชู ทำพิธีปลุกเสกในคืนวันที่ 15 ค่ำ เดือน 11 ตรงกับวันที่ 28 ตุลาคม 2528 เวลา 22.56 น. เป็นเวลาที่ราหูเริ่มอมพระจันทร์พอดี (ขณะกบกำลังกินเดือน) ซึ่งตามคติของไสยเวทถือว่าเป็นมหานิยมอย่างสูง เหมาะสำหรับปลุกเสกพระที่เน้นหนักไปทางด้านเมตตามหานิยมและโชคลาภครับ ซึ่งถือเป็นวันที่มีเสน่ห์ทางเพศสูงสุด นอกจากจะเอา"กัวเผาะ"ผสมลงไปด้วยแล้ว หลวงพ่อชู ยังให้เอา "ลึงค์ช้าง"มาผสมเข้าไปด้วย ผง"งาขนาย" เป็นงาที่ได้จากช้างพัง (เพศเมีย) ที่งอกออกมาจากโคนงวงเหนือปากเป็นท่อนสั้นๆ โดยเมื่อช้างพังเริ่มมีอารมณ์ทางเพศก็จะตกมันคล้ายช้างพลาย (เพศผู้) โดยจะทิ่มงาขนายและหักคาไว้ตามต้นไม้ใหญ่ งาขนายนี้หายากกว่างากำจัด โบราณถือว่าเป็นเมตตานิยมอย่างสูง ใครมีไว้จะมีโชคมีลาภอีกด้วย ผงวิเศษและผงพรายกุมารฯ ของลป.ทิม วัดละหารไร่ ผงจินดามณีของลป.แก้ว วัดละหารไร่ ผงว่านสบู่เลือด(พิมพ์สีแดง) ผงของท่านเจ้าคุณนรฯ ซึ่งคุณลุงแก้ว ได้มอบให้ทางคุณชินพรไว้ 1กระป๋องใบชา ทองคำเปลวปิดองค์หลวงพ่อโสธร ผงวิเศษกว่า 1,000 ชนิดที่รวมๆปนไว้ พร้อมทั้งทรายเสกของอาจารย์ยุคเก่าๆ ที่มีชื่อเสียงอีก 32 รูป ไม้กาหลงต้นที่นักบุญบูรพาและอาจารย์วิเชียรฯ ได้มอบให้คุณชินพรไว้ก่อนที่เรื่องราวของต้นไม้กาหลงต้นที่นกกาตายสุมอยู่ ที่โคนต้นจะดัง
องค์นี้ผงที่อุดผงพรายเต็มนะครับ