หลวงปู่สี ฉนฺทสิริ ท่านเป็นชาวเมืองสุรินทร์ เมื่ออายุ 21 ปี ท่านถูกเข้าเกณฑ์ทหารเข้ารับราชการ และเมื่อปลดจากสภาพการเป็นทหารมาแล้ว ท่านก็มายึดใช้อาชีพค้าวัว ค้าควาย และเป็นพราน อยู่แถวๆเขตช่องแค ซึ่งแต่เดิมมีสภาพเป็นป่าดงดิบ และยังไม่ได้ตั้งเป็นอำเภอตาคลี ท่านใช้ชีวิตเป็นหนุ่มอยู่หลายปีและรู้สึกเบื่อหน่ายทางโลก จึงได้อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2431 โดยมี พระครูธรรมขันธ์สุนทร เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชได้ระยะหนึ่งแล้ว ท่านจึงได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่ ถ้ำเขาเสียบ เขตช่องแค อำเภอตาคลี เพราะก่อนบวชท่านเคยอยู่ในเขตนี้มาก่อน ก่อนที่จะมาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค อำเภอตาคลีนั้น หลวงปู่สีท่านอยู่ที่วัดหนองลมพุก อำเภอโนนสังข์ จังหวัดอุดรธานี ในปีพ.ศ. 2512 พระพระครูนิวิฐปริยัติคุณ พร้อมด้วยชาวบ้าน ได้พากันไปนิมนต์หลวงปู่ให้มาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค ในระยะแรกที่หลวงปู่มาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาคนั้น ท่านจำพรรษาอยู่ที่กุฏิไม้ หลังเล็กๆหน้าปากทางขึ้นถ้ำ (ปัจจุบันรื้อไปแล้ว) ในขณะนั้นคนในตลาดตาคลียังไม่ค่อยมีใครรู้จักหลวงปู่ และท่านก็ไม่ได้แสดงอิทธิฤทธิ์อันใดให้ใครรู้ วันหนึ่งๆท่านจะนั่งตะบันหมากฉัน การฉันหมากของท่านก็ไม่เหมือนใคร เพราะท่านไม่ได้ฉันเปลือกไม้ที่มีขายตามท้องตลาดเหมือนที่คนกินหมากทั่วไป ซื้อมากิน หลวงปู่ท่านจะฉันแก่นไม้คูนแดงซึ่งจะมีคนตัดมาถวายตลอด ท่านจะนำมาฟันเป็นชิ้นๆ แล้วนำลงตำให้ละเอียดแล้วจึงฉันกับหมากแทนเปลือกไม้ กิจสงฆ์ของท่านที่ทำเป็นประจำก็คือ หลวงปู่ท่านจะสรงน้ำตอนประมาณบ่าย 3-4 โมงเย็นทุกวันและหลวงปู่จะตื่นนอนทำวัตรเช้าตอนตี 3 ทุกวันอีกเช่นกัน บทสวดมนต์ที่หลวงปู่สวดเป็นประจำคือ บท "กรณียเมตสูตร" เป็นประจำ เรื่องมนต์นี้ พระอาจารย์ประเทือง เคยถามหลวงปู่ว่าสวดมนต์บทไหนดี หลวงปู่จะบอกว่า "ดีทุกบท" บทที่สำคัญ "กรณียเมตสูตร" ให้นั่งภาวนา ทำวัตรสวดมนต์อย่าให้ขาด ท่านได้มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2520 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รวมอายุได้ 128 ปี บวชพระมาได้ 89 พรรษา