ปลัดขิก หลวงพ่ออี๋จะทำด้วยไม้คูนเป็นส่วนใหญ่ ไม้เหลาชะโอนก็มี  ไม้ชองระอาก็มี และไม้กัลปังหาก็มี  ตัวนี้เนื้อไม้เหมือนไม้คูนแต่เสี้ยนไม้ดูแปลกตามากครับ

ปลัดขิกหลวงพ่ออี๋ของยาย ผมเห็นมีอยู่สองตัว คือตัวนี้ตัวหนึ่ง เป็นตัวค่อนข้างใหญ่ โตประมาณ 1 นิ้วยาวประมาณ 4 นิ้ว  ปัจจุบันอยู่กับลูกลุง  และอีกตัวหนึ่งอยู่กับผมเป็นไม้ชองระอาครับ

ข้างแก้มทั้งสองข้าง ข้างซ้ายจะลงยันต์ว่า มิ  ส่วนข้างขวาจะลงยันต์ว่า ปิ ครับ  ว่ากันว่าปลัดขิกของหลวงพ่ออี๋จะจารอักขระลงยันต์ตรงตำแหน่งที่แน่นอนครับ

ปลัดขิกของหลวงพ่ออี๋ จะลงยันต์ด้วย "หัวใจโจร" คือ " กัณ หะ เน หะ" 

กัณหะ ของหลวงพ่ออี๋ คำว่า กัณ จะสกดด้วย ณ. เณร  ไม่ใช่ น.หนู หากเป็น น.หนู เป็นไม่ใช่ของหลวงพ่ออี๋ครับ

แต่หลวงพ่ออี๋ จะจารหัวใจโจรไว้ข้างละ 2 คำ คือเอาคำว่า กัณ หะ จารลงบนข้างขวาของปลัดขิกครับ  สังเกต คำว่า กัณหะ จะมีตัวขอมอยู่ 3 ตัว คือตัว กะ ณะ หะ แต่ถ้าเอามาเรียงไว้ในบรรทัดเดียวกันอย่างนี้ จะอ่านได้ว่า  กะ ณะ หะ  แสดงว่าจารไม่ถูกเขียนไม่เป็น สกดตัวขอมไม่เป็นครับ  ที่ถูกอักขระวิธีจะต้อง เอาตัว หะ ไว้ใต้ตัว ณะ เพื่อบอกให้รู้ว่า ตัว ณะ สกดตัว กะ ที่อยู่ข้างหน้าครับ ถึงจะอ่านได้ว่า กัณหะครับ ถ้าตัว หะ ไม่ได้อยู่ใต้ตัว ณะ ก็ผ่านไปก่อนนะครับ   

ส่วน เน หะ ที่เป็นสองคำหลังของหัวใจโจรนั้น ท่านจะเอามาจารไว้ที่ข้างซ้ายของตัวปลัดขิกครับ อย่าลืมนะครับว่าท่านจะจารไว้แน่นอนครับว่า ตำแหน่งไหนจารอะไรนะครับ  หากผิดไปจารนี้ ก็ผ่านไปก่อนดีกว่าครับ  

เนื่องจากปลัดขิกตัวนี้ค่อนข้างใหญ่ จึงไม่ค่อยได้ใช้นัก  ทำให้เห็นรอยจารบนหัวปลัดขิกได้ชัดเจนครับ  บนหัวของปลัดขิกหลวงพ่ออี๋จะจารด้วย ตัว อุ อยู่ด้านปลายๆและ ตัว อิ อยู่ด้านบนๆของหัวปลัดครับ  

ส่วนตรงต้นคอ เหนือตรงรอยหยักของหัวปลัดขิกขึ้นไปทางหลังเล็กน้อย จะลงด้วย พินทุ  หรือนิยมเรียกว่า  ตาพระอินทร์  สังเกตจะจารวน เป็นวงกลมหลายรอบ แต่ถ้าเขียนรอบเดียวแบบตัวโอ O ละก็ผ่านไปก่อนดีกว่าครับ

ตัวนี้เป็นปลัดขิกหลวงพ่ออี๋  อีกตัวหนึ่งของยายหนูครับ  เล็กกว่าตัวแรก  ใช้ง่ายพกพาง่าย พี่ผู้ใหญ่คำรณใช้ลงทะเลประจำ  จึงทำให้มองไม่เห็นอักขระแล้ว ตัวนี้ทำจากไม้ชองระอา  ปัจจุบันปลัดขิกตัวนี้ผมใช้อยู่ พี่เค้าได้ให้ผมเมื่อปี 2517 ครับ  

ด้านหลังและท้องของปลัดขิกหลวงพ่ออี๋  ไม้ชองระอาครับ  

ตัวนี้เป็นปลัดขิก ของหลวงพ่ออี๋ ทำจากไม้คูน โตประมาณ 3/4 นิ้ว ( หกหุน ) ยาวประมาณ 3 นิ้วกว่าๆ  ตัวนี้ติดรางวัลที่หนึ่ง จ.ลำปางเมื่อหลายปีก่อน กรรมการสมาคมฯครับ

ลงอักขรเลขยันต์เหมื่อนตัวแรกของยายเปรี๊ยบเลยครับ

แก้มข้างซ้ายลง มิ  แก้มข้างขวาลง ปิ ครับ

สองคำแรกของหัวใจโจร คือ กัณ หะ ลงบนข้างลำตัวข้างขวาของปลัดขิกครับ

อย่าลืมนะครับว่า  ตัว หะ ตัองอยู่ใต้ตัว ณะ เสมอนะครับ  ถึงจะอ่านว่า กัณหะ ได้ครับ ถ้าเรียงกันเป็นแถวทั้งสามคำละก็ วังเวงแน่ครับ

สองคำหลังของหัวใจโจร คือ เน หะ  หลวงพ่อท่านจะเอามาลงไว้ที่ข้างลำตัวข้างซ้ายของปลัดขิกครับ  หากสลับข้างกันละก็ผ่านไปก่อนจะปลอกภัยกว่าครับ

ส่วนบนหัวปลัดขิกตัวนี้ ถูกใช้มาค่อนข้างเยอะ จึงทำให้มองไม่ค่อยเห็นตัว อุ และตัว อิ ครับ

บนหลังถัดไปทางหัวปลักขิก  จะลง พินทุ หรือที่เราเรียกกันว่า ตาพระอินทร์  ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของปลัดขิกหลวงพ่ออี๋ครับ  สังเกตว่ว จะจารวนหลายรอบครับ  แต่ถ้าจารรอบเดียว ผมว่าอย่าเสี่ยงดีกว่าไหมครับ  

บังเอิญยายผม เป็นหลานหลวงพ่ออี่ และมีปลัดขิกของหลวงพ่ออี๋อยู่ 2 ตัวพอดีครับ  จึงทำให้ได้รู้ข้อมูลของหลวงพ่ออี๋และปลักขิกของท่านพอสมควรครับ

ส่วนหลวงปู่หมุนผมเคารพนับถือท่านครับ จึงศึกษาหาข้อมูลเอาครับ ไม่ได้เป็นญาติกับคุณมงคลครับ ขอบคุณครับผม  

รู้จริง รู้ลึก ศึกษา น่านับถือ วิเคราะห์ เจาะลึก แบ่งปัน สรรสร้าง  เข้าท่ากว่าไอ้เจ้าที่สะเออะทำหนังสือขายซะอีก

ขอบคุณครับผม

ขอบคุณครับผม

ขอบคุณครับผม

ขอบคุณครับผม

ขอบคุณครับ คุณโอ๋

    ปลัดของหลวงพ่ออี๋ ที่จารคำว่า กัณหะ แบบที่ตัว กะ ณะ หะ อยู่บนเส้นบรรทัดเดียวกันละก็ อย่าไปสนใจเลยครับ เพราะสะกดตัวขอมไม่เป็นครับ 

    ที่สะกดถูกอักขระวิธี ต้องเป็นอย่าง 2 ภาพนี้ครับ

    ปลัดของหลวงพ่ออี๋ ที่จารคำว่า กัณหะ แบบที่ตัว กะ ณะ หะ อยู่บนเส้นบรรทัดเดียวกันละก็ อย่าไปสนใจเลยครับ เพราะสะกดตัวขอมไม่เป็นครับ 

    ที่สะกดถูกอักขระวิธี ต้องเป็นอย่าง 2 ภาพนี้ครับ