พระหลวงปู่โง่นช่วยชีวิต ดาบตำรวจสมชาย ใจโพธิ์
ภาระหน้าที่ของตำรวจในการรักษาความสงบเรียบร้อยให้สังคมนั้น บางโอกาสต้องเสี่ยงต่ออันตรายเนื่องจากต้องเจอกับคนร้าย
เจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายเกือบต้องเสียชีวิตลงเพราะคนร้ายต่อสู้ บางนายรอดจากการเสียชีวิตเนื่องจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือไว้ ดังรายของดาบตำรวจสมชาย ใจโพธิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พร้าว รอดจากการเสียชีวิตเนื่องจากพระหลวงปู่โง่น
เหตุเกิดเมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๓ เวลาประมาณ ๒๐.๓๐ น. ขณะนั้นดาบตำรวจสมชาย ใจโพธิ์ ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจเดินเท้าคู่กับดาบตำรวจนิพนธ์ ศรีนวล เดินตรวจร่วมกันรอบตลาดเทศบาลเวียงพร้าว ดาบตำรวจสมชายฯ เล่าเหตุการณ์เสี่ยงตายว่า
“ผมกับดาบนิพนธ์ แต่งเครื่องแบบตำรวจเดินตรวจไปถึงหน้าโรงพยาบาลพร้าว เห็นวัยรุ่นคนหนึ่งนั่งอยู่ในศาลาหน้าโรงพยาบาล แสงไฟสลัวพอเห็นหน้ากัน วัยรุ่นท่าทางมีพิรุธ จึงเข้าไปสอบถามและขอค้นตัว สอบถามว่ารอใคร วัยรุ่นชายคนนั้นบอกว่ารอเพื่อน ผมกับดาบนิพนธ์ จึงขอค้นตัว ทันใดนั้นวัยรุ่นทำท่าขัดขืนและขยับจะวิ่งหนี ผมจึงรวบตัวไว้และร่วมกับดาบนิพนธ์ กอดปล้ำ ในใจเชื่อว่าต้องมียาเสพติดอยู่ที่ตัว วัยรุ่นคนหนี้สูงเกิน ๑๗๐ ซ.ม. รูปร่างใหญ่แข็งแรง ผมตัวเล็กกว่า ปล้ำจับเอาไม่อยู่ ระหว่างที่ดาบนิพนธ์ รวบอยู่ด้านหลัง ผมอยู่ด้านหน้ากำลังปล้ำกันอยู่ อย่างที่ผมไม่ทันระวัง วัยรุ่นคนนี้คว้าอาวุธปืนพกขนาด .๓๕๘ ที่ผมพกอยู่ ขณะที่ผมกำลังจะคว้าคืน วัยรุ่นยกปืนยิงใส่ผม ๒ นัดซ้อน นัดแรกถูกนิ้วมือและเฉี่ยวถูกใบหูขวา นัดที่สองเข้าเต็มอกด้านขวา แรกกระสุนทำให้ถอยหลังมองดูเห็นเสื้อเป็นรอยแฉกมีเลือดไหลจากบาดแผลมาก พอได้สติผมรีบวิ่งไปที่โรงพยาบาล มือกุมบาดแผลไว้ หมอดูบาดแผลและห้ามเลือด เข้าใจกันว่ากระสุนฝังใน จึงส่งผมขึ้นรถโรงพยาบาลไปโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
“หมอรับตัวไว้และทำการผ่าตัดเพื่อเอาหัวกระสุนออก แต่ปรากฏว่าที่ตกค้างอยู่ คือ พระหลวงปู่โง่นที่ผมคล้องอยู่ ถูกกระสุนปืนดันเข้าไปในกล้ามเนื้อหน้าอกขวาลึกเข้าไป ๒ ซ.ม. ผ่าออกมาแล้วที่ลำตัวของพระเครื่องลอยองค์มีรอยกระสุนที่ฐานใต้ลำตัว และความแรงของกระสุนทำให้มือขวาของพระขาดหาย และเศียรพระหลุดออก ผมจึงรู้ว่ารอดตายมาได้เพราะหลวงปู่โง่นช่วยไว้
“ผมคล้องพระรวมอยู่ในสร้อยคอ ๕ องค์ ซึ่งมีพระลอยองค์ของหลวงปู่โง่นรวมอยู่ด้วย ตอนหลังถูกยิงแล้ว สร้อยคอขาด พระองค์อื่นหล่นอยู่ในเสื้อ ส่วนพระหลวงปู่โง่นหายไปพบนึกว่าตกระหว่างกอดปล้ำวัยรุ่น
“หลวงปู่โง่นองค์นี้ สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๘ ใช้ชื่อว่าพระพุทธวิโมกข์ เป็นรูปพระพุทธเจ้า ผมได้มาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๖ ขณะนั้นจบตำรวจใหม่ๆ และฝึกงานอยู่ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ขณะนั้นมีงานศพคุณแม่ของ พล.ต.ท.ประสาน วงศ์ใหญ่ ผู้บัญชาการตำรวจภาค ๕ ที่วัดพระสิงห์ และนำศพไปฌาปนกิจที่สุสานหายยา ตำรวจฝึกงานรุ่นผมถูกเกณฑ์ไปช่วยในพิธีศพ ในพิธีศพที่สุสานหายยามีการแจกพระหลวงปู่โง่นคนละองค์ ผมได้มา ๑ องค์ และใช้แขวนไว้ที่คอเรื่อยมา”
เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่องค์พระมีขนาดหน้าตักกว้างเพียง ครึ่งนิ้ว พระสูง ๑ นิ้ว แต่กระสุนมาถูกองค์พระทำให้กระสุนกระเด็นหายไปไม่ฝังในร่างกายของดาบตำรวจสมชาย จึงรอดชีวิตมาได้
ส่วนคนร้ายวัยรุ่นที่ยิงดาบตำรวจสมชาย เป็นวัยรุ่นบ้านต้นรุง ตำบลป่าตุ้ม อำเภอพร้าว หลังจากยิงดาบตำรวจสมชาย แล้ว กำลังตำรวจได้มาช่วยกันจับกุม จนจับตัวได้ตรวจค้นเจอยาบ้าซ่อนอยู่ในซองบุหรี่ ๒ เม็ด ได้ถูกดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ศาลจำคุก ๑๗ ปี
หลวงปู่โง่น โสรโย ตามประวัติเริ่มอุปสมบทที่วัดศรีเทพประดิษฐาราม จังหวัดนครพนม เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๒ ต่อมาไปศึกษาธรรมมะที่ประเทศลาวกับเพื่อน ชื่อ เจ้ายอดแก้ว ต่อมาท่านนี้เลื่อนเป็นสมเด็จพระสังฆราชแห่งราชอาณาจักรลาว เมื่อประเทศลาวแตกได้กลับมาอยู่จังหวัดนครพนม สอบได้นักธรรมเอก ต่อมาได้ออกธุดงค์หลายพื้นที่ เคยธุดงค์มาเขตอำเภอเชียงดาว อำเภอฝาง หลวงปู่โง่นเป็นผู้ที่นิมิตรถึงพระ
มรณภาพเมื่อต้นปี พ.ศ.๒๕๔๒ ขณะอายุ ๙๔ ปีเศษ
|