หงสาวดีตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำพะโค เป็นเมืองของชาวมอญมาก่อนในอดีต ก่อนที่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้จะยึดครองได้ ในปี พ.ศ. 2082หลังจากที่พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้เข้ามาทำพิธีเจาะพระกรรณที่ฐานพระธาตุมุเตาขณะที่ยังอยู่ในเขตของมอญอยู่ และสถาปนาเป็นศูนย์กลางอำนาจของราชวงศ์ตองอูเดิมเมืองหงสาวดีเก่า(ยุคมอญ)อยู่บริเวณตะวันออกของพระธาตุมุเตา ต่อมาจึงย้ายและสร้างให้ใหญ่กว่าเดิมในยุคพม่า หงสาวดีเจริญรุ่งเรืองสุดขีดในรัชสมัยของพระเจ้าบุเรงนอง เนื่องจากพระองค์ให้ทรงสร้างพระราชวังของพระองค์ที่ชื่อ กัมโพชธานี ซึ่งนับเป็นพระราชวังใหญ่โตมีประตูทางเข้าออกถึง 10 ประตู สร้างโดยเกณฑ์ข้าทาสจากเมืองขึ้นต่าง ๆ โดยหนึ่งในนั้นมีเมืองเชียงใหม่และอยุธยารวมอยู่ด้วย จนถึงสมัยพระเจ้านันทบุเรงหลังศึกยุทธหัตถีแล้ว นัดจินหน่องได้ผูกมิตรกับเมืองยะไข่และอยุธยาเพื่อเข้าตีหงสาวดี แต่มหาเถรเสียมเพรียมได้ยุยงให้ตองอูไม่เข้ากับอยุธยา ดังนั้นเมื่อทัพตองอูมาถึงหงสาวดีก็ได้เข้าตีและล้อมเมืองเอาไว้ เมื่อทางหงสาวดีทราบว่าพระนเรศวรปราบมอญสำเร็จแล้วจึงเปิดประตูเมืองรับทัพตองอู พระเจ้านันทบุเรงมอบสิทธิ์ขาดในการบัญชาการทัพแก่นัดจินหน่องและเชิญพระเจ้านันทบุเรงไปประทับ ณ ตองอู เพื่อเตรียมรับทัพพระนเรศวร ตองอูได้กวาดต้อนพลเรือนและทรัพย์สินไปยังตองอู ทิ้งเมืองให้ยะไข่ปล้นและเผาเมือง ส่วนพระนเรศวรมาถึงหงสาวดีก็เหลือแต่เมืองที่ถูกเผาแล้ว พระนเรศวรจึงยกทัพไปตีตองอูต่อ เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นจุดจบของกรุงหงสาวดี
หลังจากนั้น ศูนย์กลางอำนาจของพม่าได้ย้ายไปยังอังวะ อมรปุระ และมัณฑะเลย์ตามลำดับ จนถึงวันที่พม่าเสียกรุงให้แก่อังกฤษ
สัญลักษณ์ของเมืองหงสาวดี เป็นรูปหงส์คู่ ตำนานเล่าว่า พระพุทธเจ้าทรงเสด็จมาถึงเมืองหงสาวดีที่สมัยก่อนยังคงเป็นชายหาดริมทะเล พระพุทธเจ้าทรงเห็น หงส์สองตัวว่ายน้ำเล่นกัน จึงทำนายออกมาว่าภายหลังจะเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง ชาวหงสาวดีจึงถือเอาตำนานเรื่องนี้มาเป็นสัตว์สัญลักษณ์ นอกจากนี้ ตำนานยังกล่าวว่า หงส์คู่นั้น ตัวเมียขี่ตัวผู้ จึงมีคำทำนายว่าต่อไปผู้หญิงจะเป็นใหญ่ ซึ่งผู้หญิงคนนั้นคือ พระนางชินสอบู (ตะละแม่ท้าว)นั่นเอง
อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของหงสาวดี คือ พระธาตุชเวมอดอ หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า พระธาตุมุเตา เป็นพระธาตุที่อยู่มานานคู่กับเมือง เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชื่อว่าภายในได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ เล่ากันว่าเมื่อครั้งใดที่ พระเจ้าบุเรงนองจะออกทำศึกจะทรงสักการะขอพรจากพระธาตุนี้ทุกครั้ง และเมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้เสด็จมายังที่หงสาวดีนี้ก็ได้ทำการสักการะพระธาตุนี้ด้วย
|