อู้ได้ซะป๊ะเรื่อง
เดือด.....แน่ๆ
|
|
|
|
|
|
|
|
อาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 52 [ พรีเมียร์ลีก ]
|
พบ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ แอนฟิลด์ |
เวลา : 20.00 น. ถ่ายทอดสด : รอการยืนยัน
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Next Match
อาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 52 [ พรีเมียร์ลีก ]
พบ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ แอนฟิลด์
เวลา : 20.00 น. ถ่ายทอดสด : รอการยืนยัน
|
|
|
โดย : พระช้างเผือก [Feedback +37 -0] [+0 -0] |
|
[ 1 ] Thu 22, Oct 2009 12:49:05
|
|
|
|
เชียร์หงส์ แอบเชื่ออยู่ลึกๆๆๆๆๆๆ ว่าน่าจะฟลุ๊คชนะได้ครับ |
|
|
โดย : Tae [Feedback +37 -0] [+0 -0] |
|
[ 4 ] Thu 22, Oct 2009 17:33:02
|
|
|
|
เด๋วก็รู้...........อุอุอุอุhttp://www.redarmyfc.com/music,26.html
|
|
|
โดย : พรหมาจักรโก [Feedback +26 -0] [+0 -0] |
|
[ 5 ] Thu 22, Oct 2009 18:28:09
|
|
|
|
รักหงส์ แต่แอบ เชียร์แมนยู อิ อิ โดนมาเยอะ เจ็บมาเยอะเข็ดแล้วคร๊าบ
|
|
|
โดย : พิมพ์นิยม [Feedback +0 -0] [+0 -0] |
|
[ 6 ] Fri 23, Oct 2009 18:17:30
|
|
|
|
แฟนหงส์เหมือนกันครับ เจ็บเหมือนกันแต่มันเป็นสายเลือดซะแล้ว |
|
|
โดย : kan2517 [Feedback +17 -0] [+0 -0] |
|
[ 7 ] Sat 24, Oct 2009 12:32:58
|
|
|
|
เอ๋ๆๆๆๆ ภาพนี้ คุ้นๆแหะ เหมือนจะ เห็น เมื่อคืน แหะๆๆๆ
แดงเดือดสมชื่อ ใบแดงปลิวว่อนฝั่งละใบ สุดท้ายเป็นพลพรรค "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่ย้ำแค้นอริตลอดกาลอย่าง "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ไปได้ 2-0 เฟร์นานโด ตอร์เรส ซัดเบิกร่องประตูแรก ก่อนที่ ดาวิด เอ็นก๊อก จะมายิงปิดท้ายในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในศึกพรีเมียร์ ลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2552
ลิเวอร์พูล 2 - 0 แมนฯ ยูไนเต็ด
สนาม : แอนฟิลด์ แดงเดือด ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามแอนฟิลด์ เจ้าบ้าน ได้ เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าตัวเก่งลงเล่นเป็นตัวจริง แต่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ไม่ผ่านความฟิต ขณะที่ทีมเยือน ได้ เวย์น รูนี่ ลงเล่นเป็นตัวจริงในแดนหน้าจับคู่กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เริ่มเกมมาได้เพียงสองนาทีทีมเยือน ปีศาจแดง ได้โอกาสลุ้นก่อนเมื่อ รูนี่ย์ ได้บอลจากแดนกลางก่อนหลุดเดี่ยวยิงผ่านมา มานูเอล เรน่า ไปซุกตาข่าย แต่ว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน ถัดมาแต่ 3 นาทีเจ้าบ้านได้เล่นเกมรุกบ้างเมื่อ ลูคัส เลว่า ได้บอลจากก ยอสซี่ เบนายูน ก่อนเลี้ยงตัดไปทางขวาสับไกยิงระยะ 20 หลาบอลแฉลบกองหลังผีแดงออกหลังไป นาทีที่ 15 เจ้าบ้านได้โอกาสลุ้นประตูจากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษ ฟาบิโอ ออเรลิโอ รับหน้าที่ปั่นบอลจะเสียบเสาแรกอยู่แล้วแต่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ พุ่งไปปัดได้ทัน แต่บอลยังไม่พ้นอันตรายเมื่อ เดิร์ค เค้าท์ วิ่งตามซ้ำจ่อๆ แต่ยังติดเซฟเสียอีก นาทีที่ 18 ยังเป็นลิเวอร์พูล ที่มีโอกาสลุ้นประตู เมื่อ พอล สโคลส์ เสียบอลตรงกลางสนาม เลว่า ตัดบอลได้ ก่อนจ่ายต่อให้ เค้าท์ ได้หลุดเดี่ยวในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนตวัดยิงบอลพุ่งออกหลังแบบไม่น่าเชื่อ ต่อมาแค่ 3 นาที ทีมเยือน ได้ลุ้นประตูบ้างเมื่อ รูนี่ย์ ได้บอลตรงกลางสนามจ่ายต่อให้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่ปีกขวา ก่อนตัดสินใจเปิดเข้ากลางให้ รูนี่ย์ เทกตัวโหม่งเข้ากรอบแต่บอลเบาไป เรน่า รับไว้ได้สบาย นาทีที่ 36 หงส์แดง น่าได้ประตูขึ้นนำอย่างยิ่งเมื่อ เบนายูน ได้บอลตรงเขตโทษด้านขวาตัดสินใจเปิดบอลเข้ากลางให้ ออเรลิโอ โหม่งๆ บอลพุ่งเข้ากรอบแต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังไวพุ่งรับไว้ได้ทัน ท้ายครึ่ง ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นประตูอีกครั้งเมื่อได้ลูกฟรีคิกทางด้านซ้าย ลูคัส รับหน้าที่เปิดเข้ากลางประตูและจังหวะเบียดกัน เค้าท์ดึงล้ม โดนลงแต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร และ ฟาน เดอร์ ซาร์ ชกบอลทิ้งออกไปได้ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0 เริ่มครึ่งหลังเจ้าบ้านดาหน้าบุกแหลกทันทีและมาได้ลุ้นจากลูกเตะมุมด้านขวาแต่ยังดีที่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ชกบอลทิ้งไว้ได้ทันเวลา นาทีที่ 50 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสได้ประตูอย่างน่าเสียดายเมื่อ เอวร่า เสียบอลตรงกลางสนาม เบนายูน ตัดได้ก่อนจ่ายต่อให้ จอห์นสัน ทางขวาตัดเข้ากลางให้ เบนายูน อีกครั้ง แต่จับบอลไม่ดีทำให้พลาดโอกาสยิงอย่างน่าเสียดาย ผ่านมา 2 นาที หงส์แดง ยังได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งขวา ออเรลิโอ รับหน้าที่เปิดเข้ากลางให้ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ โหม่งเช็ดไปเสาสอง แต่บอลหลุดออกหลังแบบได้ลุ้น นาทีที่ 56 ฝั่งทีมเยือนได้ลุ้นบ้างเมื่อ เลว่า ทำฟาวล์ รูนี่ย์ ระยะ 30 หลาทางซ้าย ไรอัน กิ๊กส์ เปิดเข้ากลางบอลกำลังจะเข้าหัว เบอร์บาตอฟ อยู่แล้ว แต่ เฟร์นานโด ตอร์เรส มาช่วยสกัดได้ทัน และผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว นาที 62 ได้ลุ้นบ้างเมื่อได้ลูกเตะมุม กิ๊กส์ รับหน้าที่เปิดเข้ากลาง ตอร์เรส ช่วยโหม่งเคลียร์แต่ยังมาเข้าทาง กิ๊กส์ อีกครั้ง ก่อนโยนไปเสาสองให้ รูนี่ย์ เปิดต่อเข้ากลางให้ กิ๊กส์ วิ่งเข้ายิง แต่บอลยังเข้าซอง เรน่า อีกครั้ง นาที 65 เจ้าบ้านตอบโต้ทันควันเมื่อ เค้าท์ ได้บอลตรงกลางประตูจ่ายต่อให้ เบนายูน ทางกราบขวา และจ่ายทะลุช่องให้ ตอร์เรส พาบอลหนี ริโอ เฟอร์ดินานด์ เข้ากรอบเขตโทษ ตามด้วยยิงยัดเสาแรกเข้าแสกหน้า ฟาน เดอร์ ซาร์ ให้ ลิเวอร์พูล ออกนำไปก่อน 1-0 หลังได้ประตูขึ้นนำ หงส์แดง ได้ใจใหญ่เดินหน้าบุกแหลก นาทีที่ 71 ได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ ออเรลิโอ เปิดลูกเตะมุมเข้ากลาง บอลตกใส่ วิดิช สกัดไม่ดีมาเข้าทาง ลูคัส แต่จังหวะยิงกลับหวดบอลเหินข้ามคานอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 74 ทีมเยือนปรับแผนการเล่นโดยส่ง ไมเคิ่ล โอเว่น ลงเล่นแทน เบอร์บาตอฟ และส่ง นานี่ ลงแทน พอล สโคลส์ เพื่อเพิ่มความสดในเกมรุก ถัดมา 3 นาที ปีศาจแดง ได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ วาเลนเซีย เปิดบอลจากกราบขวาเข้ากลาง นานี่ รับบอลได้ จัดการปั่นด้วยเท้าขวาบอลเข้ากรอบแต่ว่าเบา เรน่า รับสบาย นาที 79 เบนายูน น่าบวกสกอร์เพิ่มให้เจ้าบ้านเหลือเกินเมื่อ ออเรลิโอ โยนยาวมาให้ เจ้าตัวพักอกเอาบอลเขาเขตโทษได้แล้ว แต่ดันไปล็อกอีกจังหวะ เลยโดนวิดิช สกัดได้ทันเวลา คล้อยหลังมานาทีเดียว เจ้าบ้าน จัดการปรับตัวผู้เล่นบ้างเมื่อจัดการส่ง ดาวิด เอ็นก๊อก ลงเล่นแทน ตอร์เรส ที่เริ่มหล้า นาทีที่ 84 วาเลนเซีย น่าตีเสมอให้ทีมเยือนเหลือเกินเมื่อ โอเว่น พักบอลในกรอบเขตโทษมาให้ วาเลนเซีย ริมกรอบโทษทางขวา วาเลนเซียจับบอลลงและอัดด้วยขวาเต็มแรงผ่าน เรน่า ไปแล้ว แต่บอลดันชนคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดายสุดๆ ต่อมาอีก 4 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะได้ประตูตีเสมออีกครั้งเมื่อ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ดึง โอเว่น ล้มลงหน้าเขตโทษและรับใบเหลืองไป นานี่ รับหน้าที่ยิงบอลข้ามกำแพงไปแล้วแต่ว่ายังตรงตัว เรน่า รับเข้าซองสบาย
เกมมาถึงนาที 89 เป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ เนมานย่า วิดิช ไปตัดเกม เดิร์ค เค้าท์ ถูกเหลืองสองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ช่วงทดเวลาบาดเจ็มมา 4 นาที มาสเคราโน่ มาโดนใบเเหลืองที่สองเมื่อเสียบ ฟาน เดอร์ ซาร์ ช้าเลยโดนใบเหลืองที่สองไล่ออกจากสนามไปอีกคน เกมโอเวอร์เมื่อทดเวลาบาดเจ็บมาครบ 5 นาที ลูคัส เลว่า จ่ายบอลจากจังหวะสวนกลับ ให้ เอ็นก๊อก หลุดเดี่ยวยิงผ่าน ฟาน เดอร์ ซาร์ เสียบเสาสองให้ ลิเวอร์พูล ชนะขาดลอย 2-0 เก็บสามแต้มสำคัญต่อการไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : โฆเซ่ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน , แดเนียล แอ็กเกอร์, เจมี่ คาร์ราเกอร์, เอมิเลียโน่ อินซัว, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ลูคัส เลวา, เดิร์ค เค้าท์, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ยอสซี่ เบนายูน (มาร์ติน สเคอร์เทล น.90), เฟร์นานโด ตอร์เรส (ดาวิด เอ็นก๊อก น.80) สำรอง : ดีเอโก้ คาวาเลียรี่, ฟิลิปป์ เดเก้น, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจย์ สเปียริ่ง, ไรอัน บาเบิล, อังเดร โวโรนิน, ดาวิด เอ็นก๊อก แมนฯ ยูไนเต็ด (4-4-2) : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, พอล สโคลส์ (นานี่ น.74), ไมเคิ่ล คาร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนี่ย์ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (ไมเคิ่ล โอเว่น น.74) สำรอง : เบน ฟอสเตอร์, แกรี่ เนวิลล์, ฟาบิโอ ดาซิลวา, โจนาธาน อีแวนส์, อันแดร์สัน, หลุยส์ นานี่, ไมเคิ่ล โอเว่น
เฟร์นานโด ตอร์เรส กระชากหลุดเข้าไปซัดให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0
ดาวิด เอ็นก๊อก ซัดประตูตอกย้ำให้ลิเวอร์พูลชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด เด็ดขาด 2-0
4 นักเตะแมนฯ ยู ยืนเซ็งในท่าเดียวกัน หลังโดนยิงลูกสองในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
ป๋ายกนิ้วหงส์คู่ควรเฮ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ดยอมรับความปราชัยแต่โดยดีรับ "หงส์แดง" เล่นได้ดีกว่าในเกมนี้ และสมควรเป็นผู้ชนะแล้วพร้อมมั่นใจลูกทีมจะไม่เป๋กลับมาคั่วแชมป์ได้ตามปกติแน่นอนหลังเคยทำให้เห็นซีซั่นที่แล้วพ้ลิเวอร์พูลไป-กลับแต่ยังคว้าแชมป์ได้
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ยอมรับความปราชัยแต่โดยดีต่ออริเบอร์หนึ่งอย่าง ลิเวอร์พูล รับ "หงส์แดง" เล่นได้ดีกว่าในเกมนี้ และสมควรเป็นผู้ชนะแล้ว แม้ว่าจะมีข้อกังขาตรงที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ไม่โดนไล่ออกทั้งที่ดูจะสมควรโดนก็ตาม "มันเป็นฟอร์มที่แย่มากของเรา โดยเฉพาะในครึ่งแรก เราไม่สามารถรับมือกับบรรยากาศของเกมได้เลย" บรมกุนซือสกอตติชกล่าว "ครึ่งหลังเรากระเตื้องขึ้นบ้าง แต่เราก็พลาดในจังหวะสำคัญหนึ่งหรือสองครั้ง" "มันเกิดข้อถกเถียงขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขา (คาร์ราเกอร์) ฉุดไมเคิ่ล โอเว่นล้มลงที่มุมเขตโทษ เขาคือนักเตะประสบการณ์สูงสุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นกองหลังที่ดีที่สุดของพวกเขา ถ้าเขาออกจากเกมไปในตอนนั้น มันจะสร้างความลำบากให้พวกเขาแน่นอน" "อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่ดีกว่า พวกเขาสร้างโอกาสได้มากกว่า พวกเขาคู่ควรกับชัยชนะนัดนี้แล้ว เราปล่อยให้ตัวของเราพ่ายแพ้เอง"
|
|
|
โดย : พระช้างเผือก [Feedback +37 -0] [+0 -0] |
|
[ 8 ] Mon 26, Oct 2009 09:03:05
|
|
|
|
|
|
|
|